วันนี้ (30 มกราคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดมทุนพรรคภายใต้ชื่องาน ‘พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง’ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่
สำหรับงานวันนี้มีเป้าหมายเพื่อการเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมของพรรค ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นหนึ่งเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ
พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า สถานการณ์ด้านการเมืองในปัจจุบันสังคมไทยยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง แต่พรรคพลังประชารัฐยังคงมุ่งมั่นและยืนหยัดที่จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และรักษาผลประโยชน์ของชาติให้พี่น้องประชาชนชาวไทยมีความกินดีอยู่ดีอย่างมีความสุข
พล.อ. ประวิตร กล่าวต่อว่า ขอยืนยันกับทุกท่านว่าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างพลังแห่งความสามัคคี เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่จุดหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ พล.อ. ประวิตร ยังให้สัมภาษณ์พิเศษถึงประโยคที่ว่า ‘ใจบันดาลแรง’ โดยกล่าวว่า ชีวิตสมัยเป็นทหารกับการเป็นนักการเมืองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้กองทัพบกเจริญรุ่งเรือง พอเกษียณอายุราชการก็ถูกเชิญไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 3 ปี ก่อนจะมีโอกาสเข้ามาเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนไม่ค่อยทราบว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับนักการเมืองกว่า 10 ปี ทำให้พอทราบว่าเป็นอย่างไร ตนเคารพทุกคน เพราะในชีวิตการทำงานของตนผ่านศึกสงครามมามาก แต่พยายามทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อกองทัพ และประชาชน มาโดยตลอด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชีวิตประจำวัน พล.อ. ประวิตร ชอบทำอาหารใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ตนทำอาหารมาโดยตลอดอยู่แล้ว เรียกได้ว่าทำเลี้ยง 3 ป. มาตลอด พร้อมมั่นใจว่าทำผัดซีอิ๊ว ราดหน้า เก่งมาก สามารถเปิดร้านขายได้ ใครจะพาไปเปิดก็เอาไปได้ รวมถึงเมนูข้าวหน้าไก่ อร่อยขนาดที่ร้านดังก็สู้ไม่ได้ เคยทำให้ 3 ป.กิน คือ ต้มเนื้อ กะเพราเนื้อ ไข่เจียว และก๋วยเตี๋ยว ทำให้กินตั้งแต่หนุ่มๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับ 3 ป. พล.อ. ประวิตร ตอบว่า อยู่ด้วยกัน 3 คนมาอย่างยาวนานตั้งแต่เป็น ผบ.ร้อย ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อประเทศชาติและกองทัพมาโดยตลอด เติบโตกันมากระทั่งตนเป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อตนออกจากการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พล.อ. ประยุทธ์ ก็เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ. อนุพงษ์ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. เมื่อตนเองดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนเคยอยู่บ้านเดียวกัน นอนห้องเดียวกัน 3 คน ร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็น พล.อ. เช่นเดียวกัน
“เรียกได้ว่ามีความสนิทสนมเป็นกันเองอย่างพี่อย่างน้อง ไม่มีอะไรที่แยกกันได้จากความเป็นพี่เป็นน้อง นักการเมืองจะไปคนละทาง แต่ก็แยกเฉพาะการเมือง เพราะการเมืองอาจเห็นไม่เหมือนกันได้” พล.อ. ประวิตร กล่าว
นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดเสวนาในหัวข้อ ‘Thailand in a Spinning Word – ประเทศไทยในวันที่โลกหมุนเร็ว’ โดย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรค และ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคตที่ต้องรับมือกับการแข่งขันบนเวทีโลก รวมถึงกฎเกณฑ์การค้าใหม่ที่ต้องเผชิญ กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยต้องให้ภาคการผลิตไทยและทุกภาคส่วนเร่งปรับตัว เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันบนเวทีการค้าโลกได้
