ทุกปีเมื่อถึงปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม ทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะเข้าช่วงฤดูมรสุม ที่มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลางโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

     ปรากฏการณ์เช่นนี้มักจะมีสิ่งที่ตามมาทุกปีคือขยะจำนวนมหาศาลถูกคลื่นลมทะเลพัดเข้าเกยหาดเป็นระยะทางยาว ตั้งแต่ อ.หัวหินจนไปถึง อ.บางสะพาน จนชาวบ้านต่างคุ้นชิน

     ซึ่งขยะที่พบส่วนใหญ่จะเป็นพวกเศษไม้แห้งขนาดใหญ่และเล็ก ลูกมะพร้าว ผักตบชวา วัชพืชอื่นๆ รวมถึงขยะที่เกิดจากฝีมือมนุษย์มักง่ายที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง  เช่น ขวดแก้ว พลาสติก กล่องโฟม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งมีทั้งที่ถูกซัดเข้าชายหาดแล้ว และกำลังลอยอยู่ในทะเล

     นอกจากนี้สภาพคลื่นลมในทะเลยังมีกำลังแรง คลื่นสูง ช่วงน้ำทะเลขึ้นคลื่นทะเลก็จะกวาดเอาขยะที่อยู่บนชายหาดลงไปในทะเลจนทำให้น้ำทะเลเกิดความสกปรก และเมื่อช่วงน้ำทะเลลงคลื่นก็ซัดเอาขยะมาเกยบนชายหาดสลับกันอย่างนี้จนกว่าขยะจะถูกคลื่นลมพัดไหลไปตามกระแสน้ำลงเรื่อยๆ ไปถึงพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7-15 วัน หรือจนกว่าคลื่นลมจะสงบ ขยะบางส่วนก็ทับถมอยู่บนชายหาดระยะทางหลายกิโลฯ นับปริมาณได้หลายร้อยตัน

     หลังจากนั้นขยะบางส่วนจะลอยอยู่ในน้ำ ไหลไปที่อื่นตามกระแสคลื่นลมและบางส่วนก็จมหายลงไปในทะเล

     นายโกศล สำแดงเดช เจ้าหน้าที่วนอุทยานท้าวโกษา กล่าวว่า ช่วงนี้คลื่นลมแรงลมมรสุมจะพัดพาเอาขยะเข้ามาบนชายหาดมาก โดยเฉพาะในแนวเขตวนอุทยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะออกมาเก็บทุกเช้าเพื่อไม่ให้ขยะสะสม เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวมาทุกวัน

     โดยเจ้าหน้าที่จะนำรถโฟร์วีลล์มาขนขยะขึ้นไปเก็บ พรุ่งนี้ขยะมาอีก ก็จะเก็บสะสางไปเรื่อยๆ ไม่ให้มีขยะหนาแน่น คิดว่าประมาณครึ่งเดือนหน้าขยะก็จะหมดเมื่อมรสุมหมดลง

     นางทองเจือ บัวงาม อาชีพให้เช่าเก้าอี้ชายหาด กล่าวว่า ขยะปีนี้มีมากกว่าทุกปี ตั้งแต่จำความได้ก็มีมาตลอด คิดว่าขยะพวกนี้มาจากกรุงเทพฯ ซึ่งทุกๆ ปีชาวบ้านก็จะช่วยกันเก็บและขุดหลุมฝัง เก็บมาตั้งแต่เช้าก็ยังเก็บไม่หมดเพราะมีปริมาณมาก ต้องระดม อบต. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันเก็บคนละไม้คนละมือ นักท่องเที่ยวที่มาก็จะบอกว่าสกปรก ส่วนตัวอยู่ที่นี้รู้สึกชินแล้ว

     นายวรายุ กลิ่นนิรัญ พนักงานรีสอร์ต กล่าวว่า รู้สึกไม่ค่อยดีกับปรากฏการณ์เช่นนี้ เพราะขยะจะมาทุกปี พอช่วงหน้าลมปลายเดือนตุลาคม ก็จะเป็นเช่นนี้ทุกปี ส่วนลูกค้าที่มาท่องเที่ยวต่างเข้าใจเมื่อคนท้องถิ่นอธิบายให้ฟัง

     นายอุบล สารสิทธิ์ นักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาเห็นทะเลในสภาพนี้ก็ไม่สบายใจ เพราะว่ามีเศษไม้เศษขยะเยอะเกินไป ชายหาดไม่สะอาด ส่วนน้ำทะเลก็ขุ่นเป็นสีดำไม่กล้าลงเล่น

     ส่วนแนวทางการกำจัดขยะที่มีจำนวนหลายร้อยตันอยู่บนชายหาดระยะทางหลายกิโลฯ ทุกปีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรอให้คลื่นลมสงบ หลังจากนั้นก็จะใช้เครื่องจักรหนักเข้ามาเก็บกวาดขยะจำนวนมหาศาลนี้ โดยใช้รถแบ็กโฮ (Backhoe) ขุดหลุมขนาดใหญ่บริเวณชายหาด แล้วใช้รถไถดันขยะมารวมกันแล้วดันขยะลงไปในหลุมเพื่อฝังกลบ แทนการนำขยะจำนวนมหาศาลไปทิ้งบนฝั่ง ซึ่งไม่มีพื้นที่รองรับขยะจำนวนมากได้ อีกอย่างขยะส่วนใหญ่เป็นเศษไม้แห้งขนาดใหญ่และเล็ก ลูกมะพร้าว ผักตบชวา และวัชพืชอื่นๆ เมื่อนำมาฝังกลบจะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ส่วนขยะที่เป็นพลาสติก ขวดแก้ว โฟม ก็จะใช้แรงคนมาเก็บไปทิ้งที่บ่อขยะให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำกันเป็นประจำทุกปี

เรื่องและภาพ: สมบัติ ลิมปจีระวงษ์