วันนี้ (25 มีนาคม) อภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวการเลือกตั้ง ส.ก. ที่จะมีขึ้นวันที่ 22 พฤษภาคม โดยพรรคพลังประชารัฐจะส่งผู้สมัคร ส.ก. ครบทั้ง 50 เขต
อภิชัยกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ประเมินว่าไม่มีความยาก เนื่องจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคมีการเตรียมความพร้อมมานานแล้ว และมีการลงพื้นที่ไปทุกเขต ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคมีความมั่นใจในกระแส พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ อภิชัยตอบว่า พล.อ. ประยุทธ์ ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีที่สุด ให้ลองคิดดูว่าช่วงวิกฤตโควิดยังมีการบริการจัดการได้ดี แม้จะมีความผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็ดูแลอย่างเต็มที่ และอีกประการหนึ่ง ในช่วงปีที่แล้วคนกรุงเทพฯ ก็รู้ว่าพื้นที่ต้องการความสงบเพื่อใช้ทำมาหากิน แล้วมีการชุมนุมประท้วงค่อนข้างมาก แต่ พล.อ. ประยุทธ์ก็ดูแลได้ดี ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ส่งว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จะทำให้เป็นจุดอ่อนหรือไม่ อภิชัยยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา เพราะพรรคก็มีผู้สมัคร ส.ก. ลงพื้นที่และสามารถทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ ในอนาคตได้ ถือว่าเป็นการทำหน้าที่แทนคน กทม. ด้านการตรวจสอบและผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ดีของผู้ว่าฯ
ส่วนเป้าหมายเก้าอี้ ส.ก. ครั้งนี้ อภิชัยกล่าวว่าจะให้ได้รับเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด แล้วแต่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ทางพรรคก็มั่นใจว่าการเลือกตั้งใหญ่ระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ยังได้ตำแหน่ง ส.ส. มากถึง 12 เขต จาก 30 เขต ทั่ว กทม. และเขตอื่นๆ ที่ได้คะแนนเป็นที่ 2 มากถึง 12 เขตเลือกตั้ง ส่วนสเปกของผู้ว่าฯ กทม. ที่สามารถเข้ากับพรรคพลังประชารัฐได้จะต้องเป็นแบบไหน อย่างไรนั้น ถ้าประชาชนเลือกมาก็สามารถร่วมงานกับใครก็ได้เป็นอย่างดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในสนามเลือกตั้ง กทม. พรรคพลังประชารัฐจะชู พล.อ. ประยุทธ์เป็นหลักหรือไม่ อภิชัยตอบว่า เราจะชูนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเองเป็นหลัก ส่วนตัวนายกฯ ไม่มีปัญหา เพราะท่านได้ดูแลและสร้างความสงบสุขพอสมควร
อภิชัยระบุว่า “ถ้าไม่มั่นใจจริงคิดว่าจะหาใครมาได้เหรอถ้าไม่ใช่ พล.อ. ประยุทธ์” มั่นใจว่าจะไม่เป็นจุดอ่อน เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว
สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้ อภิชัยกล่าวกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ในที่ประชุมว่าผู้สมัครจะเป็นส่วนผสมระหว่างคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ เคยทำงานเป็น ส.ก. มาก่อน และคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดไอเดียใหม่ๆ ซึ่งสิ่งที่อยากให้สมาชิกว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ขับเคลื่อน จะเป็นปัญหาการเดินทางของคนกรุงเทพฯ, ปัญหาเรื่องการทำมาหากิน การค้าขาย, ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อม การเพิ่มพื้นสีเขียว, การเข้าถึงการบริการภาครัฐ ความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพ, ที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขที่ต้องประเชิญกับวิกฤตโควิดมากว่า 2 ปี
อภิชัยย้ำกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ท้ายการประชุมว่า เราจะแก้ปัญหา เคียงข้าง รับใช้ชาวกรุงเทพฯ บนโลกของความเป็นจริง เราสัญญาว่าบ้านต้องอบอุ่น ปากท้องต้องอิ่ม ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม