วันนี้ (14 มิ.ย.) สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้รายชื่อในส่วนของพรรคพลังประชารัฐถึงมือพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ทยอยส่งรายชื่อให้กับนายกรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นสุดท้าย ซึ่งขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็กำลังประชุมอยู่ และคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า พร้อมยอมรับว่าบางตำแหน่งทางพรรคได้ส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณามากกว่า 1 รายชื่อ พร้อมข้อเสนอแนะ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นบุคคลใด โดยขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเลือกบุคคลใด อย่างไรก็ตามคาดว่าเดือนกรกฎาคม จะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
สนธิรัตน์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคใหม่ว่า เป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่หากพลเอก ประยุทธ์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นผู้นำเข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็งและเดินหน้าไปได้ ส่วนจะเป็นการตอกย้ำภาพการสืบทอดอำนาจให้ชัดเจนขึ้นหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งยังไม่ทราบว่าพลเอก ประยุทธ์จะมาดำรงตำแหน่งจริงหรือไม่ และประเด็นนี้ทางพรรคยังไม่เคยมีการพูดคุยหรือวางตัวมาก่อน และหากพลเอก ประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรคจริง ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนตัวกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย
“ตอนนี้พรรคยังไม่มีการเทียบเชิญพลเอก ประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรค และยังเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ ต้องรอความชัดเจน และส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปได้ที่พลเอก ประยุทธ์อาจจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรค และของนายกรัฐมนตรีเป็นไปในทิศทางที่สอดรับกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของอนาคต” สนธิรัตน์ กล่าว
เลขาธิการพรรค กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรคว่า ทุกพรรคมีปัญหาเกี่ยวกับความเห็นที่แตกต่างกัน พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคขนาดใหญ่ มี ส.ส. กว่า 100 คน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญพรรคเปิดโอกาสให้ทุกคน และเคารพความเห็นของทุกคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องจบด้วยการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งการตั้ง ครม. มีทั้งคนพอใจ และไม่พอใจ เป็นเรื่องปกติ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หมด ส่วนกรณีที่มีการขุดคดีเก่าของสมาชิกบางคนมาโจมตีกันนั้น ส่วนตัวไม่อยากเห็นการโจมตี เพราะเรากำลังเดินหน้าประเทศ ไม่อยากให้เอาสิ่งลบมาพูดกัน เพราะประชาชนจะคิดว่า การเมืองมีแต่เรื่องของการแย่งชิง ควรเปิดใจกว้างและมองประเทศเป็นตัวตั้ง รวมถึงมองความสามารถของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
สนธิรัตน์ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ขณะนี้กรอบนโยบายพรรคเสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้นในสัปดาห์หน้าจะเช็กความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อนัดหารือร่วมกัน เพื่อนำนโยบายของแต่ละพรรคร่วมมาร้อยเรียงให้เป็นนโยบายรัฐบาล ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาและแถลงต่อรัฐสภา
ส่วนกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติความเป็น ส.ส. จากการถือครองหุ้นสื่อของ 27 ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้พรรคมีคณะทำงานฯ ซึ่งมีทศพล เพ็งส้ม ดูแลข้อกฎหมายอยู่ ซึ่งยอมรับว่าเป็นประเด็นใหม่ทางการเมือง แต่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากสภาพการถือครองหุ้นมีความแตกต่างกัน ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ
ภาพ: พรรคพลังประชารัฐ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์