หนังเกี่ยวกับอะไร?, เรื่องย่อเป็นอย่างไร?, ดูแล้วรู้สึกอย่างไร?
คือคำถามที่ทำให้หลายคนหนักใจทุกครั้งเมื่อถูกถามหลังจากดู Mary is Happy, Mary is Happy ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
ไม่ใช่แค่หลังดูจบ เพราะแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานถึง 6 ปี นับจากวันแรกที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายในประเทศไทย หลายคนก็ยังตอบคำถามนี้ได้ไม่ชัด และไม่แน่ว่าตัวผู้กำกับเองก็อาจจะยังตอบคำถามนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป เพราะเขาเคยพูดเอาไว้เองในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ไม่มีเรื่องย่อ!
เริ่มต้นตั้งแต่ไอเดียสุดประหลาด ที่เต๋อนำทวีต 410 ทวีต ช่วงเดือนธันวาคม 2555 ถึงมกราคม 2556 จากแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @marylony หรือ แมรี่ มาโลนี่ (ไนซ์-ภัทรินทร์ คงภิวัฒนา) แบบเรียงตามลำดับมาต่อยอดตามจินตนาการ
เราเลยได้เห็นประโยคอย่าง อยากเลี้ยงแมงกะพรุน, หยิบแฮมเป็นแผ่นที่หก, พรุ่งนี้ต้องเร็วนะ, ธุระปะปังมาก ทำไมต้องปะปัง, ไม่มีขนมอยู่ในคืนวันศุกร์, ตัวตามหาคนอื่น สุดท้ายตัวเองสูญหาย, ไม่มีอะไรใหม่หรอก ทุกอย่างแม่งก็เก่าหมด, ฯลฯ (ไม่ใช่แค่เครื่องหมาย เป็นหนึ่งใน 410 ทวีตจริงๆ) ที่ถ้ามองผ่านๆ ก็ได้แต่คิดว่าจะร้อยเรียงออกมาได้อย่างไร
แต่ขึ้นชื่อว่า นวพล เขาสามารถทำสิ่งเหล่านั้นมาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้จริงๆ โดยทำให้ Mary is Happy, Mary is Happy เป็นภาพยนตร์ ‘มั่วสัด’ แต่ก็จัดเรียงความมั่วได้น่าสนใจ ดูแล้วเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง (เราเป็นหนึ่งในคนที่ค่อนไปทางไม่เข้าใจ) คนที่รักก็รักสุดใจ คนที่ไม่ชอบก็เกลียดกันไปเลย
Mary is Happy, Mary is Happy กลายเป็นภาพยนตร์นอกกระแสที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ มากถึง 10 สาขา และคว้ามาได้ 4 สาขาคือ ลำดับภาพยอดเยี่ยมโดย ชลสิทธิ์ อุปนิกขิต, ถ่ายภาพยอดเยี่ยมโดย ไพรัช คุ้มวัน
ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยมโดย จูนจูน-พัชชา พูนพิริยะ (รับบทเป็นแมรี่) และผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมโดย เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย (รับบทเป็นซูริ) และยังนับว่าเป็นการแจ้งเกิดสองนักแสดงสาวหน้าใหม่ให้กับวงการอย่างเต็มตัว
ได้ไปฉายและชนะรางวัลจากเวทีต่างประเทศหลายที่ เช่น เทศกาลภาพยนตร์ Filmfest Hamburg ประเทศเยอรมนี, Golden Horse Film Festival ประเทศไต้หวัน, Valdivia International Film Festival ประเทศชิลี, Busan International Film Festival ประเทศเกาหลีใต้ และ Tokyo International Film Festival ประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ
และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ปักหมุดและสลักคำว่า ‘ผู้กำกับอินดี้’ ให้กับนวพลจนแยกจากกันไม่ออก ถึงแม้ในช่วงหลังเขาจะได้ทำหนังอย่าง ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ หรืองานโฆษณาชิ้นหนึ่ง ที่มีคำว่า ‘แกแมสแล้วว่ะ’ เป็นจุดขาย ก็ยังรู้สึกถึงความอินดี้หน้าเดดของเขาได้อยู่ดี
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ ที่หนึ่งในทวีตเมื่อ 6 ปีก่อน ‘ของที่อยากเก็บไว้ วันหนึ่งจะกลายเป็น อย่า เก็บ ไว้’ มีลักษณะใกล้เคียงกับคอนเซปต์เรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
ผลงานภาพยนตร์ลำดับ 7 ของเต๋อ ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 26 ธันวาคม ว่าด้วยเรื่องการจัดบ้านที่ต้องกลับไปเผชิญกับความทรงจำที่ซุกซ่อนอยู่ในสิ่งของ ที่ทำให้ต้องตัดสินใจว่า จะเก็บเอาไว้ ทิ้งไป หรือจะทำอย่างไรกับมันดี