สเลอปี้ เครื่องดื่มที่ครองใจมหาชนมาจนถึงวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามีต้นกำเนิดในปี 1965 หรือราว 53 ปีที่แล้ว!
ก่อนจะมาเป็นน้ำอัดลมปั่นสีสดใสในชื่อ สเลอปี้ (Slurpee) ต้นกำเนิดของมันต้องย้อนไปปลายยุค 1950 เมื่อ Omar Knedlik เจ้าของร้าน Dairy Queen ในรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา พบปัญหาเครื่องกดน้ำอัดลมของร้านเสียอยู่บ่อยๆ จนทำให้เขาต้องเอาน้ำอัดลมเหล่านั้นไปแช่แข็งเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าได้ทัน และนั่นก็ทำให้น้ำอัดลมเหล่านั้นกลายเป็นวุ้นเย็นเฉียบถูกใจนักดื่มจนได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก ภายหลังโอมาร์คนเดิมก็เลยได้ไอเดียต่อยอด คิดสร้างอุปกรณ์ทำเครื่องดื่มให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง แล้วว่าจ้างศิลปินออกแบบชื่อรวมถึงโลโก้เพื่อสิ่งนี้ สุดท้ายได้ออกมาเป็น ‘ICEE’ เครื่องดื่มที่ใครเกิดทันอาจจะยังพอจำกันได้
ICEE ประสบความสำเร็จจน 7-Eleven ตัดสินใจขอซื้อลิขสิทธิ์ในปี 1965 เพื่อนำนวัตกรรมดังกล่าวไปทำเป็นสินค้าของทาง 7-Eleven เอง ตั้งชื่อใหม่ว่า ‘สเลอปี้’ โดยจะขายในร้านสาขาทั่วอเมริกา และแล้วสเลอปี้แก้วแรกก็เกิดขึ้นในปี 1966
สเลอปี้เดินทางทั่วอเมริกา และออกเดินทางไปเสิร์ฟความสดชื่นทั่วโลกตามสาขาที่ร้าน 7-Eleven จนในปี 1989 สเลอปี้ก็เดินทางเข้ามาประเทศไทย
มีข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันมีร้าน 7-Eleven ที่จำหน่ายสเลอปี้มากกว่า 64,000 สาขาใน 18 ประเทศ โดยสเลอปี้ทำยอดขายได้ราว 14 ล้านแก้วต่อเดือน และเมืองที่ครองตำแหน่งนักดื่มสเลอปี้สูงสุดได้แก่ เมือง Winnipeg ประเทศแคนาดาที่ขายสเลอปี้ได้ราว 188,833 แก้วต่อเดือน ซึ่งนับว่าเป็นเมืองที่นิยมดื่มสเลอปี้ที่สุดในโลก
สเลอปี้รสชาติดั้งเดิมได้แก่ Wild Cherry, Coca-Cola และ Mountain Dew โดยจะมีรสใหม่ๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้ลิ้มลองเป็นระยะ นอกจากชื่อตรงตัวน้ำอัดลมอย่างในช่วงแรก ก็มีชื่อรสที่ตั้งขึ้นเองอย่างเช่น Pink Fink, Adults Only, Moonshine, Sticky Icky และอื่นๆ มากกว่า 300 รสชาติ
THE STANDARD POP โหวตกันแล้วว่ารสโคลาคือที่สุดของความชอบ แล้วคุณล่ะชอบกดสเลอปี้รสไหนมากที่สุด
