เชื่อหรือไม่ว่าในขณะที่ทั่วโลกกำลังรณรงค์ลดการใช้พลาสติก แต่ความต้องการพลาสติกโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) หรือ PP กลับเติบโตต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ตลาดโพลีโพรพิลีนในรายงานที่ตีพิมพ์โดย Ceresana บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดต่างประเทศชั้นนำสำหรับภาคอุตสาหกรรม พบว่าปี 2020 มีโพลิโพรพิลีนจำนวนมากถึง 19.1 ล้านตัน ถูกนำไปแปรรูปเป็นฟิล์ม ถุง กระสอบ และถุงบรรจุภัณฑ์อาหารต่างๆ และอีกกว่า 17.3 ล้านตัน นำไปผลิตบรรจุภัณฑ์แบบคงรูป เช่น บรรจุภัณฑ์และฝาสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์สำหรับภาคอุตสาหกรรม และของใช้ในครัวเรือน ในรายงานดังกล่าวยังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่โพลีโพรพิลีนยังเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐานจึงถูกนำไปใช้งานด้านอื่นๆ ตั้งแต่เส้นใยสิ่งทอ เครื่องใช้ในครัวเรือน และชิ้นส่วนรถยนต์ ไปจนถึงท่อน้ำและเส้นใยเสริมแรงในคอนกรีต
รู้จัก ‘พลาสติก PP’ ต้นกำเนิดของผลิตภัณฑ์รอบตัวเรา
คงไม่ต้องถึงกับเข้าห้องวิจัยเพื่อถอดรหัสพันธุกรรมของพลาสติก PP เพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติของเรา เพราะเราอยากให้คุณจดจำมันในฐานะพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติกที่น้ำหนักเบาที่สุด สามารถขึ้นรูปโดยใช้ความร้อนได้หลายกระบวนการ ทั้งวิธีการฉีด (Injection) และวิธีการรีด (Extrusion) น้ำหนักเบาที่สุด ทนแรงกระแทกดี ทนร้อนเก่งจึงสามารถทนต่อการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิมากกว่า 100 องศาเซลเซียสได้ เจอรอยขีดข่วนก็ไม่สะท้าน มีความคงตัวไม่เสียรูปง่าย และทนต่อสารเคมี รวมถึงน้ำมันชนิดต่างๆ และไอน้ำก็สามารถซึมผ่านเข้าไปได้น้อยเช่นกัน
คุณสมบัติครบเครื่องขนาดนี้พลาสติก PP จึงถูกนำไปแปรรูปสร้างสรรค์เป็นสิ่งของที่อยู่รอบตัวเรามากมาย ตั้งแต่ของใกล้ตัวอย่าง กล่องใส่อาหารที่เข้าไมโครเวฟได้ ภาชนะบรรจุอาหาร บรรจุภัณฑ์ประเภทขวดและฝาขวด ซองขนม ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถุงบรรจุอาหาร เส้นด้าย ผ้าอ้อม บรรจุภัณฑ์สำหรับเก็บสารเคมี หรือบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและน้ำมัน อุปกรณ์การทางการแพทย์ เช่น ขวดน้ำเกลือ หน้ากากอนามัย ไปจนถึงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม จำพวกท่องานก่อสร้าง อะไหล่รถยนต์ เช่น กล่องแบตเตอรี่รถยนต์ กันชนรถ หรือแม้แต่ตลับเครื่องสำอาง ปกแฟ้มเอกสาร กระสอบข้าว ถุงปุ๋ย เก้าอี้พลาสติก กระเป๋าเดินทาง และอีกมากมาย
ด้วยเหตุนี้เอง พลาสติก PP จึงเป็นวัตถุดิบสำคัญในแทบจะทุกอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่ทำให้ PP ยังเป็นผู้รอดท่ามกลางกระแสลด ละ เลิก การใช้พลาสติก เพราะคุณสมบัติที่แข็งแกร่งมาก ทนร้อน ทนสารเคมี อย่างที่เล่าไป PP จึงถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้แบบแทบไม่บุบสลายและกลายร่างเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
ใครคือผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PP รายแรกและรายใหญ่ของเมืองไทย?
เมื่อเข้าใจถึงความแตกต่างของพลาสติก PP และมองเห็นมันปรากฏกายอยู่รอบตัวมากมายขนาดนี้ เคยสงสัยหรือไม่ว่า ในประเทศไทยใครคือผู้ริเริ่มเห็นความสำคัญของเม็ดพลาสติก PP และตั้งโรงงานผลิตเป็นรายแรกของไทย?
ขอเฉลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) รายแรกของไทย และยังเป็นผู้นำธุรกิจเม็ดพลาสติก PP ในอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็คือ HMC Polymers นั่นเอง
HMC Polymers เปิดประตูโรงงานเดินสายการผลิตเม็ดพลาสติก PP มาตั้งแต่ปี 1983 จนถึงวันนี้ก็เกือบ 40 ปี และเมื่อโรงงาน PP โรงที่ 4 เริ่มดำเนินการผลิตปลายปีนี้ HMC Polymers จะครองตำแหน่งผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PP ที่มีกำลังการผลิตสูงสุดมากกว่า 1 ล้านตันต่อปี มากที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขับเคลื่อนการผลิตภายใต้แนวคิดที่ต้องการผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากพลาสติก PP ให้เป็น ‘จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ไม่สิ้นสุด’ (Endless Possibilities Begin) เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เชื่อมโยงสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของทุกชีวิตในสังคม และเพื่อโลกใบนี้ที่ยั่งยืน
เบื้องหลังพลังขับเคลื่อนการผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศไทยของ HMC Polymers
จุดแข็งที่ทำให้ HMC Polymers สามารถถือครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสูงสุดต่อเนื่องเกือบ 40 ปี โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ GC แกนนำธุรกิจของ PTT ที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจร ครอบคลุมการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย
HMC Polymers ยังดำเนินธุรกิจร่วมกับ LyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำที่ใหญ่ในระดับต้นของโลก และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลาสติก PP ทำให้ HMC Polymers ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต Spheripol และ Spherizone จึงมีเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศไทย สามารถผลิตพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพ (Differentiated) สร้างความแตกต่างและพิเศษกว่าคู่แข่ง
ซึ่งเทคโนโลยีการผลิต Spheripol และ Spherizone ที่ว่านี่มาช่วยเสริมแกร่งด้านประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายเกรด ปัจจุบัน HMC Polymers ผลิตสินค้าในกลุ่ม Moplen (HOMO, HECO, RACO), Adstif, Clyrell, Purell, Adsyl และ Hostalen PP มีสินค้าที่ผลิตออกสู่ท้องตลาดรวมกันกว่า 70 เกรดให้เลือกใช้งาน
ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก บนพื้นฐานของความปลอดภัย ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตลอด 40 ปี HMC Polymers ไม่เพียงสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของตลาด แต่ยังต่อยอดนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์คืนกลับสู่สังคม เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของเม็ดพลาสติก PP ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย Faceshield ชุดคลุมป้องกัน ถุงคลุมเท้า หรือ เตียงสนาม
เรื่องความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานก็เช่นเดียวกัน ในช่วงที่เริ่มมีการวิจัยเกี่ยวกับอันตรายของจากสารพทาเลต (Phthalate) ในพลาสติก หากใช้เป็นจำนวนมากจนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ HMC Polymers ก็พัฒนาเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษในชื่อ Moplen RP348NP และ Moplen RP349R ซึ่งเป็นพลาสติกประเภท Non-Phthalate หรือไม่ใช้สารพทาเลตในกระบวนการผลิต นอกจากจะฉีดขึ้นรูปได้หลากหลาย ยังทนแรงกระแทก ทนความร้อน มีความใส เงางาม และมีคุณสมบัติ Organoleptic ไร้กลิ่นของบรรจุภัณฑ์พลาสติกเมื่อใช้ร่วมกับอาหารและเครื่องดื่ม
แน่นอนว่านี่คงยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของนวัตกรรมที่ HMC Polymers สร้างสรรค์ แต่ในทุกวันที่เดินสายการผลิตเป็นเพียง ‘จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ไม่สิ้นสุด’ จุดเริ่มต้นสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ผู้คนนำไปใช้งานได้หลากหลาย และยังเป็นผู้นำนวัตกรรมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน ส่งต่อชีวิตที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ไปจนถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อยานยนต์ เพื่อทุกชีวิตบนโลกที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ติดตามความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดของ HMC Polymers และการเดินทางของเม็ดพลาสติก PP ว่าจะถูกแปลงเป็นนวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกได้อย่างไร ได้ที่เว็บไซต์ https://www.hmcpolymers.com หรือที่ https://www.facebook.com/hmcpolymersofficial
อ้างอิง: