กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ‘วิกฤตการณ์ตามหาหน้ากากอนามัย’ โดยเก็บข้อมูลประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,199 คน พบว่า
ประชาชน 42.7% ระบุว่าปัจจุบันหาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้เลย รองลงมา 23.2% ระบุว่าหาซื้อได้ยากถึงยากที่สุด ต้องตระเวนหาหลายร้าน หลายจุด และ 14.8% ระบุว่าพอหาซื้อได้บ้าง ต้องซื้อ ณ จุดหรือร้านที่รัฐประกาศขาย
ส่วนความเห็นต่อการจัดการปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนโดยภาครัฐนั้น ประชาชน 58% เห็นว่าอาจเกิดการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนเก็งกำไร รองลงมา 53.8% เห็นว่าขาดการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งต่างๆ ทั่วประเทศ และ 32.3% เห็นว่าระบบการจัดการอาจกระทบต่อการสาธารณสุขหรือการรักษาทางการแพทย์
ทั้งนี้เมื่อให้วัดระดับความกังวลถึงผลกระทบต่างๆ หากขาดแคลนหน้ากากอนามัย จากเต็ม 5 พบว่าประชาชนกังวลว่าจะกระทบต่อการแพทย์ สาธารณสุข การรักษาพยาบาลสูงที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.87 ซึ่งอยู่ในระดับ ‘มาก’
รองลงมากังวลว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงในการติดโรคโควิด-19 มากขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.83 ซึ่งอยู่ในระดับ ‘มาก’ และจะส่งผลกระทบให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูง หาซื้อไม่ได้ ผู้มีรายได้น้อยเข้าไม่ถึง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ซึ่งอยู่ในระดับ ‘มาก’
สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรแสดงบทบาทต่อแผนการจัดการหน้ากากอนามัย พบว่าประชาชน 56.4% ระบุว่ารัฐบาลควรปรับเปลี่ยนให้ผู้มีความรู้ความสามารถมาบริหารจัดการแทน รองลงมา 52.6% ระบุว่าให้ลงโทษผู้กักตุนหน้ากากอนามัยด้วยโทษสถานหนัก และ 45.4% ระบุว่านายกรัฐมนตรีควรลงมาดูแลและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ควรเชื่อเพียงการรายงาน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
