×

ชวนยันชัด ส.ส. ไม่ควรเสียบบัตรแทนกัน คาดส่งศาล รธน. วินิจฉัยวันนี้

โดย THE STANDARD TEAM
23.01.2020
  • LOADING...

ภายหลังเกิดกรณีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างบนโซเชียลมีเดียของไทย

 

ล่าสุด วันนี้ (23 มกราคม) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยืนยันว่าสภาผู้แทนราษฎรต้องตรวจสอบทุกกรณีที่มีหลักฐาน เพื่อความยุติธรรม ซึ่งเมื่อวานนี้ (22 มกราคม) เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้นำหนังสือทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่ยื่นรายชื่อให้ส่งกรณี ส.ส. เสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2563 ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไปตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ 

 

โดยคาดว่าวันนี้จะส่งกลับมาที่ตน เพื่อนำส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายในวันนี้ ส่วนหากร่างกฎหมายงบฯ ดังกล่าวเป็นโมฆะจะหาทางออกอย่างไรนั้น ตามปกติงบประมาณหากยังไม่เริ่มใช้งบประมาณใหม่ ก็ให้ใช้งบประมาณเดิมของปีก่อน แต่ในส่วนของโครงการพัฒนาอาจจะทำให้ล่าช้าไป ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญว่าจะใช้เวลาวินิจฉัยกี่วัน แต่เชื่อว่าไม่นานก็คงทราบผล เพราะศาลรัฐธรรมนูญคงทราบดีว่าจำเป็นจะต้องรีบเร่งเรื่องนี้ให้จบ

 

สำหรับมาตรการป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำหรับทุกพรรคการเมืองและสมาชิกทุกคน 

 

ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทุกพรรคการเมืองไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น ซึ่งในวันเด็กที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับการประชุมงบฯ ต่อเนื่อง ตนได้มีการเตือนให้ระวังแล้ว ใครที่ต้องไปเป็นเจ้าภาพงานวันเด็กก็ขอให้รู้ว่าไม่สามารถไปได้แล้ว เพราะ ส.ส. กับงานวันเด็กเป็นเรื่องที่คู่กัน

 

ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต้องยอมรับว่าที่นั่งไม่ได้เป็นที่ประจำแน่นอน เพราะยืมห้องของวุฒิสภามาใช้ โดยวุฒิสภามีที่นั่งประจำ สามารถรู้ว่าใครอยู่ตรงไหนและตรวจสอบได้ แต่สภาผู้แทนราษฎรยังไม่มีที่ประจำ จะไปปรับเปลี่ยนของวุฒิสภาไม่ได้ แต่เมื่อสถานที่ของสภาฯ เสร็จสิ้นแล้ว ก็อาจจะควบคุมได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความรับผิดชอบของแต่ละคนด้วย ซึ่ง ส.ส. ไม่ควรเสียบบัตรแทนใคร เพราะจะกระทบถึงการทำงาน

 

 

ภาพ: ข่าววิทยุรัฐสภา

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising