วานนี้ (15 มีนาคม) นายกรัฐมนตรีมาแตอุช มอราวีแยตสกีของโปแลนด์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีปีเตอร์ เฟียลาของสาธารณรัฐเช็ก และนายกรัฐมนตรียาแน็ส ยานชาของสโลวีเนีย เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนอย่างเป็นทางการ เพื่อเน้นย้ำแรงสนับสนุนยูเครนจากบรรดาชาติสมาชิกในสหภาพยุโรป (EU) ถือเป็นผู้นำประเทศกลุ่มแรกที่เดินทางเยือนประเทศนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การเดินทางเยือนดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด หลังกองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีหลายเมืองสำคัญ เพื่อกดดันให้ทางการยูเครนยอมรับเงื่อนไขของรัสเซีย ควบคู่ไปกับเวทีการเจรจาของผู้แทนทั้งสองประเทศที่ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดียวกัน
ทางด้านผู้นำสาธารณรัฐเช็กระบุว่า เป้าหมายของการเดินทางเยือนในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงแรงสนับสนุนยูเครนจากบรรดาสมาชิกในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องอิสรภาพและความเป็นเอกราชของยูเครน ขณะที่นายกรัฐมนตรีโปแลนด์เผยว่า ทริปนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 ของการที่กองทัพรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน โดยโปแลนด์ถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เปิดรับผู้ลี้ภัยจากยูเครนมากที่สุดขณะนี้ มีผู้ลี้ภัยไหลทะลักไปยังโปแลนด์มากกว่า 1.83 ล้านราย
โดยผู้นำทั้ง 3 ประเทศเดินทางด้วยรถไฟจากบริเวณพรมแดนโปแลนด์-ยูเครน มายังกรุงเคียฟ เพื่อเข้าหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ที่ยังคงประจำอยู่ที่ส่วนกลาง เพื่อรับมือกับกองทัพรัสเซียที่ยังเดินหน้ารุกรานต่อเนื่อง
โปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ถือเป็นอดีตประเทศคอมมิวนิสต์ที่สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิก EU และ NATO ได้สำเร็จ ทั้งยังเป็นประเทศที่สนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันในเวทียุโรปอีกด้วย นับตั้งแต่การรุกรานเปิดฉากขึ้น โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศจะหารือถึงทางออก รวมถึงการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนในยูเครนโดยเร็ว
ภาพ: (1) Ludovic Marin / AFP
(2) Leon Neal / POOL / AFP
(3) Jure Makovec / AFP
อ้างอิง:
