×

วิป 3 ฝ่าย เคาะวันเวลาแถลงนโยบายรัฐบาล 11-12 ก.ย. นี้ รวม 29 ชม. ครม.-พรรคร่วม-สว. ได้ 5 ชม. ฝ่ายค้านได้ 14 ชม.

โดย THE STANDARD TEAM
07.09.2023
  • LOADING...
นโยบายรัฐบาล

วันนี้ (7 กันยายน) ที่รัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมวิป 3 ฝ่ายว่า บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีจะใช้เวลา 2 วันคือ วันที่ 11-12 กันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น 29 ชั่วโมง

 

วันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า การประชุมจะเริ่มเวลา 09.00 ของทุกวัน โดยฝ่ายรัฐบาลจะใช้เวลาในการแถลงนโยบาย และเวลาชี้แจงทั้งหมด 5 ชั่วโมง ฝ่ายสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้รับจัดสรรเวลา 5 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล ได้รับจัดสรรเวลาที่ 5 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับจัดสรรเวลาที่ 14 ชั่วโมง โดยเวลาที่ได้รับจัดสรรเพียงพอให้สมาชิกรัฐสภาอภิปราย

 

ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต่อว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้การจัดสรรเวลาในครั้งนี้จบลงด้วยดี ไม่มีใครที่ไม่ยอม เมื่อทุกฝ่ายทราบข้อจำกัดและความสนใจของประชาชนจึงสามารถตกลงกันได้ โดยคาดว่าการอภิปรายในวันแรกจะไม่เกิน 00.00 น. และวันที่สองคาดว่าการประชุมจะไม่ดึก คงไม่เกิน 23.00 น. เนื่องจากวันพุธที่ 13 กันยายน มีประชุมคณะรัฐมนตรีต่อ หลังจากนี้ทุกฝ่ายจะกลับไปเตรียมความพร้อม ทั้งบุคคลและเนื้อหาสาระที่จะนำมาอภิปรายในวันที่ 11-12 กันยายนนี้

 

วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่าการอภิปรายจะอยู่ในกรอบ จะอภิปรายในเรื่องนโยบายและความเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติตามนโยบายนั้น ไม่ใช่ในลักษณะของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรักษาความปลอดภัยในวันแถลงนโยบาย ว่าจะเป็นไปตามกฎระเบียบหรือต้องมีการรักษาความปลอดภัยเข้มที่เป็นพิเศษหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า คาดว่าจะไม่มีเรื่อง โดยประชาชนได้ติดตามการประชุมสภาตลอดเวลา และในวันแถลงนโยบายมีการถ่ายทอดสดหลายช่อง คงจะไม่มีอะไรมากดดันสภา หากประชาชนต้องการให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีคุณภาพ ทุกฝ่ายจะต้องไม่มีแรงกดดันใดนอกจากเนื้อหาสาระ หากกลุ่มมวลชนจะเดินทางมาที่รัฐสภาจะทำให้เสียเวลาและไม่เกิดประโยชน์

 

“ไม่ได้หมายความว่าสภาจะรังเกียจ การมีประชาชนสนับสนุนก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าช่วงอภิปรายก็ต้องใช้เวลา วันหนึ่งท่านมาต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก ดูที่บ้านท่านจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่จำเป็นได้”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising