วันนี้ (21 สิงหาคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงผลการรับมือและการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า วันนี้มีการนัดรวมตัวชุมนุมด้วยกัน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มทะลุฟ้า มีการนัดชุมนุมที่บริเวณหน้าสหประชาชาติ (UN) ในเวลา 14.00 น. กลุ่มที่ 2 มีการนัดรวมตัวกันที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ยังไม่ได้มีการระบุเวลา ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด การกระทำที่สุ่มเสี่ยงและก่อเหตุความวุ่นวายจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.จราจร, พ.ร.บ.ควบคุมโรค และประกาศของกรุงเทพมหานคร
ส่วนเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง บนถนนวิภาวดีรังสิต พยายามฝ่าแนวกั้นตู้คอนเทนเนอร์ มีการปาลูกแก้ว ลูกหิน พลุเพลิง ระเบิดปิงปอง ใส่เจ้าหน้าที่ที่พยายามรักษาแนวและรักษาพื้นที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 26 คน พร้อมตรวจยึดของกลางไปป์บอมบ์ได้
ทั้งนี้ ภาพรวมการดำเนินคดีในห้วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม มีจำนวนทั้งสิ้น 807 คดี มีผู้ต้องหา 468 คน จับกุมแล้ว 211 คน
ส่วนเรื่องที่มีการเผยแพร่คลิปทางโซเชียลมีเดีย พล.ต.ต. ปิยะ เปิดเผยว่า มีทั้งคลิปใหม่และคลิปเก่าที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสาร โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที้ตำรวจได้รับคลิปภาพเกี่ยวกับการชุมนุมที่เผยแพร่ผ่านทางออนไลน์จำนวน 18 คลิป
ส่วนคลิปที่มีผู้หญิงรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการโดนกระสุนยาง ขณะที่เดินทางกลับจากทำงานเพื่อเข้าที่พัก และคลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางจ่อยิงวัยรุ่นที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านจำนวน 3 นัด เวลานี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบว่าเป็นภาพเหตุการณ์วันไหน และการกระทำดังกล่าวถือว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะมีการดำเนินการทางวินัยอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากการตรวจสอบตลอดคลิปภาพการชุมนุมที่ผ่านมา มีคลิปที่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่จริงกี่คลิป และมีการดำเนินการอย่างไร พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า คลิปเหตุการณ์ที่สะพานเฉลิมวันชาติเป็นคลิปจริง แต่เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งได้มีการดำเนินการวินัยตามขั้นตอนแล้ว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) รู้หรือไม่ว่า แม้ว่ากฎหมายจะควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ แต่กฎหมายไม่คุ้มครองหากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติเกินกว่าเหตุ พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนผ่านการอบรมตลอดหลักสูตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องรู้อยู่แล้ว
