วันนี้ (25 มิถุนายน) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น แต่ทุกกลุ่ม ทั้งผู้ที่ชักชวนให้มาชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุม และผู้สนับสนุน จะมีความผิดเบื้องต้น ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน, พ.ร.บ. ควบคุมโรค, พ.ร.บ. จราจร และ พ.ร.บ. ความสะอาด แตกต่างกันไป
ส่วนความผิดอื่นๆ วันนี้ พล.ต.ต. สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. และคณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการแบ่งงานถอดเทปการปราศรัยและตรวจสอบภาพบันทึกการชุมนุมทุกกลุ่มว่ามีการกระทำผิดกฎหมายใดเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวว่าเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ หากมีการกระทำผิดชัดเจน ก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำเสนอศาลดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งศาลจะพิจารณาอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
ส่วนกรณีที่กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ และกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ประกาศชักชวนให้มีการชุมนุมอีกครั้ง วันที่ 26 มิถุนายนนี้ พล.ต.ต. ปิยะ ย้ำเตือนว่า ขณะนี้ในเขตกรุงเทพมหานครยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทุกกลุ่มย่อมมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจพร้อมจัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนการวางสิ่งกีดขวางจะพิจารณาตามสถานการณ์ โดยจะดำเนินการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
พล.ต.ต. ปิยะ ยังกล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอภาพขณะตำรวจวางแนวป้องกันรถเครื่องเสียงของกลุ่มประชาชนคนไทยจนเกิดความชุลมุนขึ้นว่า ในการปฏิบัติหน้าที่อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ยืนยันตำรวจปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในทุกขั้นตอน
ส่วนกรณีที่มีการนำภาพที่ตำรวจสลายการชุมนุม บริเวณแยกปทุมวัน มาเชื่อมโยงกับการชุมนุมเมื่อวานนี้ ระบุว่า ตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับการบิดเบือนข่าวต่างๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะมีการตรวจสอบ หากพบเป็นข้อมูลเท็จ ทั้งผู้นำเข้าและส่งต่อจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
