วันนี้ (23 ตุลาคม) พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช. ผบ.ตร.) เปิดเผยผลการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในช่วงวันที่ 15-22 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า หลักสำคัญคือการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้านแรง แต่ในทางกฎหมาย ผู้กระทำความผิดจะยังถูกดำเนินคดีความตามวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งรวมถึงเยาวชนผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วย อีกทั้งผู้เสียหายยังสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ตามอายุความของคดี
ส่วนผลการแจ้งความดำเนินคดีและจับผู้ต้องหาในช่วงเหตุการณ์ชุมนุม จากวันที่ 13-23 ตุลาคม พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า มีผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดีไป 81 คดี จำนวนผู้ต้องหา 78 คน ซึ่งมี 3 คนที่ถูกดำเนินคดีซ้ำ ส่วนความผิดที่แจ้งความผู้ต้องหา มีความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง 46 ราย ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 4 คนถูกดำเนินคดีด้วย
ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย (ม.215) จำนวน 21 ราย คดีประทุษร้ายต่อองค์รัชทายาทและพระราชินี (ม.110) จำนวน 3 ราย ความผิดฐานยุยงปลุกปั่น (ม.116) จำนวน 10 ราย และความผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอีก 1 คน
ในจำนวนผู้ต้องหาเหล่านี้ พนักงานสอบสวนส่งตัวผัดฟ้อง ฝากขังไปแล้ว โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว 70 คน มี 8 คนที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ แยกเป็นเชียงใหม่ 1 คน คือ อานนท์ นำภา และอีก 7 คนถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดเป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม อาทิ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เป็นต้น
พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ยืนยันกรณีดำเนินคดีกับเยาวชน เป็นการดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย แต่การพิจารณาความผิด บทลงโทษจะเป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ. เด็กและเยาวชน ซึ่งเยาวชนผู้ถูกดำเนินคดีจะถูกพิจารณาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการนัดหมายในเวลา 15.00 น. บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต. ปิยะ ระบุว่า ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้ผู้บังคับการนครบาล 4 และ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีจำนวนไม่มาก และหากมีการประกาศค้างคืน ตำรวจก็มีมาตรการในการรองรับ รวมทั้งหากมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากจนตำรวจท้องที่ไม่สามารถดูแลได้ ก็สามารถร้องขอกำลังจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพิ่มเติมเพื่อไปกำกับดูแลได้
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายทั้งสองฝ่ายในพื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะนี้ตำรวจได้มีการเรียกผู้เสียหายทั้งหมดมาให้ปากคำแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุต่อไป พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า