วันนี้ (21 เมษายน) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ฉก.88) เป็นประธานการประชุม ฉก.88 ครั้งที่ 1/2568 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศ อาทิ ตำรวจนครบาล, ภูธรภาค 1-9, สอบสวนกลาง, สันติบาล, ตม., บช.สอท. และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องรวม 32 หน่วยงานเข้าร่วม ทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบออนไลน์
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 ซึ่งจัดตั้งกลไกบูรณาการความร่วมมือระหว่างตำรวจ ทหาร ภาครัฐ เอกชน และฝ่ายปกครอง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามตามแนวชายแดน โดย ฉก.88 มีภารกิจหลักในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ บริเวณชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมาและกัมพูชา
พล.ต.อ.ธัชชัย ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการ ‘ระเบิดสะพานโจร’ อย่างเคร่งครัด เพื่อตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีแนวทางหลัก 3 ด้าน คือ
- ตัดโครงสร้างพื้นฐาน: ป้องกันการลักลอบติดตั้งเสาสัญญาณ สายเคเบิล และการใช้ซิมผิดกฎหมาย (ซิมผี) พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุที่ตั้งของแก๊ง
- สกัดเส้นทางการเงิน: ตรวจสอบและป้องกันการใช้บัญชีธนาคารและบัญชีคริปโตเคอร์เรนซีผิดกฎหมาย (บัญชีม้า) เฝ้าระวังการถอนเงินสดจำนวนมากตามแนวชายแดน และสกัดกั้นการลักลอบขนเงินข้ามแดน
- ปิดกั้นการเดินทาง: เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันการลักลอบเดินทางเข้าออกประเทศของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านที่ประชุมยังได้หารือถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
โดย ผอ.ฉก.88 ย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้ผู้ที่เข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยสมัครใจ อ้างตนเป็นเหยื่อค้ามนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยงความผิด ดังเช่นกรณีการกวาดล้างในกัมพูชาที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าคนไทย 175 คนที่ถูกจับกุมล้วนมีส่วนร่วมในขบวนการ และกำลังถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหาหลัก
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ หรือสงครามไซเบอร์ (Cyber War) ที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน และแสดงความเชื่อมั่นว่า หากทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเด็ดขาด จะสามารถสร้างผลงานการปราบปรามให้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน