วันนี้ (20 ธันวาคม) ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสถานการณ์และกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 โดยการเข้าควบคุมพื้นที่ร่วมกับหน่วยปฏิบัติอื่นๆ ในการสกัดกั้นการเข้าออกของบุคคลที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค การสอบสวนโรค และการตรวจหาผู้ที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
พล.ต.อ. สุวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เนื่องจากมีแรงงานเมียนมากระจายอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัด คือกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม และราชบุรี ที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 7 แสนราย ซึ่งทั้ง 6 จังหวัดนี้ เราต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แบ่งพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นพื้นที่ไข่แดง คือตลาดกลางกุ้ง ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวอยู่ 4 พันกว่าคน ซึ่งเราปิดล็อกพื้นที่เด็ดขาด ส่วนพื้นที่นอกจุดไข่แดง เรียกว่าพื้นที่ไข่ขาว และพื้นที่ขอบกระทะ 6 จังหวัด มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกเส้นทางเข้าออกจังหวัดสมุทรสาคร และเส้นทางผ่านเข้าออกพื้นที่ 6 จังหวัดนี้
สำหรับการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เฉพาะที่จังหวัดสมุทรสาคร มีทั้งหมด 12 จุด ส่วนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี ได้เริ่มตั้งจุดตรวจฯ ด้วยเช่นกัน และอาจมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์
พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า หน้าที่หลักๆ ของตำรวจเป็นหน่วยช่วยสอบสวนโรค เป็นชุดตรวจร่วมในการเข้าไปตรวจสถานที่เสี่ยงต่างๆ เช่น ที่พัก โรงงาน สถานที่ทำงาน สถานประกอบการ โดยสั่งการให้ทำทั่วประเทศ เรื่องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจ หลักๆ ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ในส่วนกรุงเทพมหานคร วันนี้ช่วงบ่าย ทาง พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในเรื่องการออกตรวจร่วมอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ การสนับสนุนการสอบสวนโรค ทางตำรวจจะใช้ฝ่ายสืบสวนเป็นหลักในการติดตามตัวบุคคล ว่ามีใครซื้อสินค้าจากตลาดกลางกุ้งไปส่งที่ใดบ้าง นอกจากนี้ยังมีมาตรการดูแลความปลอดภัยของตำรวจเอง โดยสำนักงานแพทย์ใหญ่จะจัดชุดลงไปช่วยเหลือกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีตำรวจที่จังหวัดสมุทรสาครมีอาการไข้ 1 ราย ยังรอยืนยันผลการตรวจอยู่
นอกจากนี้ พล.ต.อ. สุวัฒน์ ยังสั่งการให้เตรียมความพร้อมในด้านการบริการประชาชน โดยการให้จุดบริการต่างๆ ที่จะต้องสัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน เช่น ห้องรับแจ้งความ หน่วยงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ดำเนินการตามมาตรการในช่วงโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยให้สำนักงานแพทย์ใหญ่เป็นหน่วยหลักในการสำรวจความพร้อม และให้พื้นที่อื่นๆ ประสานงานกับสาธารณสุขพื้นที่ร่วมสำรวจ รวมทั้งสำรวจข้อมูลกำลังพล อุปกรณ์-วัสดุทางการแพทย์ ที่จะต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ได้แก่ หน้ากาก เจลล้างมือ น้ำยา สำรวจความพร้อมของสถานที่ราชการ ยานพาหนะ และที่พักตำรวจ ให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันโรค
พล.ต.อ .สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ให้ทุกกองบัญชาการตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบว่า มีสถานที่เสี่ยงใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ชุมนุมหรือโรงงาน ศึกษาวงจรการแพร่ระบาดของโรค เช่น การเดินทางของแรงงานไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัดชายแดนภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี, ชุมพร, เชียงราย, เชียงใหม่, ตาก, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, แม่ฮ่องสอน, ระนอง, และราชบุรี โดยให้ปรึกษาหารือกับสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อเตรียมการณ์ในด้านการสำรวจและการตั้งจุดสกัด หากทางรัฐบาลมีการยกระดับสถานการณ์ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่าควรตั้งจุดตรวจ จะได้สามารถพิจารณาดำเนินการได้ทันที
ทั้งนี้ หากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด และอีกเรื่องที่ได้กำชับคือ การใช้จ่ายงบประมาณเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ต้องไม่ให้มีเหตุการณ์อมเบี้ยเลี้ยงเกิดขึ้นอีก
กรณีที่สังคมมองว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหละหลวม ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่นั้น ทาง พล.ต.อ. สุวัฒน์ ชี้แจงว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะอยู่เฉพาะด่านที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ช่องทางธรรมชาติไม่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งช่องทางธรรมชาติเราดูแลโดยใช้ตำรวจพื้นที่ ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ซึ่งการควบคุมกำลังขึ้นอยู่กับฝ่ายทหาร และการบูรณาการร่วมกัน ตนได้สั่งการให้ผู้บังคับการและรองผู้บังคับการ ต้องออกไปตรวจเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง และหากมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้รายงานทางโทรศัพท์ทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำชับเพิ่มเติมคือ ขอความร่วมมือให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติงดการจัดงานปีใหม่ หรืองานรื่นเริงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้าน พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวเสริมว่า ใครที่เดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร ขอแนะนำให้ไปตรวจคัดกรองโควิด-19 และฝากย้ำถึงร้านตัดผม โดยเฉพาะตลาดที่หย่อนยาน ทาง ผบ.ตร. สั่งการให้เอาจริง พ่อค้าแม่ค้า สถานบริการ ห้างร้าน ช่วยเอาจริงเอาจังในการป้องกัน เพราะหากตำรวจไปร่วมกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุขไปจับกุม แล้วจะหาว่าไม่เตือน
