วันนี้ (27 พฤศจิกายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการให้ความช่วยเหลือเหตุน้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยระบุว่า ได้คุยกับ พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ. 9) และ พล.ต.อ. สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 110 ราย
โดยแบ่งผู้เสียชีวิตออกเป็น 3 ส่วน
- ผู้เสียชีวิตที่ส่งจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ซึ่งเป็นผู้ป่วย
- ผู้ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้
- ศพที่นำออกมาจากพื้นที่น้ำท่วม
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเป็นเรื่องของการตายแบบธรรมชาติ คาดว่าในวันนี้จะทยอยนำร่างส่งคืนญาติได้ทั้งหมด ส่วนศพที่ไม่ทราบประมาณ 20 รายอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจเทียบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลด้วยดีเอ็นเอเพื่อเทียบกับญาติ ใช้เวลาเต็มที่ให้แล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐกล่าวว่าได้ส่งทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ สพฐ. ลงพื้นที่ไปทั้งหมด 3 ชุด โดยหนึ่งชุดสามารถตรวจพิสูจน์ได้ 20 รายต่อหนึ่งวัน ถือว่ายังอยู่ในขีดความสามารถ หากเทียบเคียงเหตุการณ์นี้แล้วจะนำเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุระเบิดที่สุพรรณบุรี และไฟไหม้รถเด็กนักเรียน มาเป็นต้นแบบ เพื่อให้การตรวจพิสูจน์เกิดความรวดเร็ว
ส่วนกรณีของเขต 8 หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าดำเนินการเรียบร้อย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ณ เวลานี้จะต้องเข้าดำเนินการ และจะมีการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ได้ให้ ผบช.ภ. 9 ประสานปฏิบัติงานร่วมกัน เพราะไม่อยากให้กู้ภัยหรือส่วนเอกชนอื่นเข้าไปโดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปด้วย กรณีที่มีเอกชนหรือกู้ภัยจะเข้าให้ประสาน เพราะมีกำลังตำรวจพื้นที่ ตชด. อยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และหลังจากนี้จะต้องมีการสืบสวนพิสูจน์ทราบความผิดเก่าและความผิดใหม่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขต 8
ส่วนกรณีการหยิบสิ่งของของร้านสะดวกซื้อโดยไม่บอกกล่าว พล.ต.อ. กิตติ์รัฐระบุว่า ถือเป็นการลักทรัพย์ แต่จะต้องดูว่าเจ้าของจะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่ หากแจ้งความร้องทุกข์เป็นกฎหมายอาญาแผ่นดิน จะต้องมีการเรียกมาสอบสวนด้วยเพราะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกัน เราเป็นคนไทยจะเกิดในภาวะวิกฤตเช่นนี้ตลอด เมื่อน้ำลดแล้วหลายคนอาจมองว่าเราสูญเสียทรัพย์สินไปกับน้ำหรือถูกทำลายไปบ้างรถยนต์ถูกน้ำพัดไป จนได้รับความเสียหาย เพราะนั่นคือทรัพย์สิน แต่ตัวของเราเองยังมีชีวิตอยู่รอดเพื่อจะดำเนินเดินหน้าต่อไปในการประกอบสัมมาชีพโดยสุจริต
“ดังนั้น เราได้รักษาชีวิตของเราแล้ว ถือว่าเป็นบทเรียนในวิกฤตของอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทางหาดใหญ่ ขอให้ตั้งสติและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอะไรที่อะลุ่มอล่วยได้ผู้ที่มีมากกว่าย่อมให้กับผู้ที่มีน้อยกว่าในภาวะเช่นนี้ จะได้เดินหน้าไปด้วยกัทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี”
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ ต้องยอมรับว่าจะต้องเห็นใจซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่ดี เรื่องอาหารการกินในวันนั้น ระดับน้ำที่ท่วม ตั้งแต่เอวถึงพ้นศรีษะ ทำให้มีความต้องการเรื่องอาหารอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ เร่งดำเนินการทั้งผลิต นำอาหารแห้ง มาช่วยกันแจกจ่ายในบางซอย ซึ่งยอมรับว่าขณะนั้น ในบางซอยเข้าถึงยากเพราะน้ำเชี่ยว และมีอากาศยานนำส่งอาหารอย่างเต็มที่
