ใครที่เคยทำวงดนตรีก็ต้องฝันอยากจะใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือหาเลี้ยงชีพให้ได้สักครั้งล่ะนะ ได้อยู่กับสิ่งที่เรารักทุกวัน มันน่าจะมีความสุขจะตาย
แล้วถ้าคุณเป็นคนเล่นดนตรีเก่ง ทำวงก็ดี แต่งเพลงก็ได้ อย่างนี้เพียงพอไหมกับการจะเป็นนักดนตรีมืออาชีพ
Eargasm Deep Talk สัปดาห์นี้ พาไปคุยกับพี่สึด แอดมินจากเพจ โถชีวิตนักดนตรี ที่แปรเปลี่ยนเรื่องเศร้ามาเป็นสีสัน ขอนำประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการดนตรีแสดงสดมานานกว่า 20 ปี มาแชร์ให้เราฟังว่ามันสึดๆ ขนาดไหน
โถชีวิตนักดนตรี เพจรวมความป่วงในวงการเพลงที่ถูกใจนักดนตรี
เกิดจากความอยากบ่นของพี่สึดเอง แต่ไม่อาจบ่นลงสเตตัสในเฟซบุ๊กส่วนตัวได้ ก็เลยเปิดเพจมาบ่น แต่ปรากฏคนกลับชอบ จนเข้ามากดไลก์และติดตามมากมาย
ประสบการณ์การเล่นดนตรีเป็นอาชีพมาร่วม 20 ปีของพี่สึด
สำหรับการเล่นดนตรีอาชีพ การเล่น การฝึกซ้อม การปรับตัวมันคือหน้าที่ของเรา มันทำให้หน้างานเราดูดี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือนิสัย ถ้าเราเล่นดีมากแต่เรานิสัยไม่ดี บุคลิกเป็นภัยกับเพื่อนร่วมงาน เขาอาจจะไม่เรียกเราไปเล่นอีกก็ได้ หรือไม่เขาก็จะคิดถึงเราเป็นตัวเลือกท้ายๆ
สิ่งที่นักดนตรีควรเตรียมพร้อมในตอนก่อนขึ้นเล่นและระหว่างเล่น ก่อนเล่นก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย จะได้เล่นสบาย ส่วนบนเวที ถ้าอยากให้เพอร์ฟอร์มออกมาดี เราต้องตื่นตัวกว่าปกติ ต้องฟังเพื่อนร่วมวงให้มากกว่าปกติ ความสนุกของการเล่นดนตรีคือการสื่อสารนี่แหละ อย่างในวงผม จะเล่นเพลงในแต่ละคืนไม่เหมือนกันเลย เล่นเพลงเดียวเป็นร้อยเวอร์ชันเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาด้วยเหมือนกัน
จุดเริ่มต้นเพจโถชีวิตนักดนตรี
เกิดจากความหงุดหงิด แต่มันเหมือนประสบการณ์ร่วมระหว่างผู้ร่วมอาชีพนักดนตรี ที่เหมือนโดนความป่วงแบบเดียวกันมา เริ่มแรกก็อยู่ในหมู่นักดนตรีและศิลปิน พอมีการแชร์มากเข้า ก็เริ่มเข้าไปสู่สังคมคนฟังเพลงและคนที่ติดตามศิลปินเหล่านั้นมากขึ้น
มุกที่คนชอบมากๆ มักจะเป็นมุกง่ายๆ เช่น เขียนลงในรูปว่า ‘จับคอร์ด F ไม่ได้’ ซึ่งคอร์ด F คือคอร์ดแรกๆ ที่คนหัดกีตาร์ต้องทาบนิ้ว ซึ่งทุกคนเจอเหมือนกันแน่นอน
มันเหมือนมือกีตาร์ก็จะมีโจ๊กของเขา มือกลองก็มีโจ๊กของเขา นักร้องก็มีโจ๊กของเขา
เรื่องป่วยๆ แบบอินไซด์สัก 2-3 เรื่อง
เรื่องแรกคือมีรุ่นน้องมือคีย์บอร์ดไปเล่นงานแต่ง แล้วโดนขอเพลง มหาฤกษ์ ก็คิดว่าเล่นได้ พอเล่นไปสักพักปรากฏว่ามีเมโลดี้เพลง ลอยกระทง เข้ามาในหัว สุดท้ายก็เล่นตามเมโลดี้ไปซะเฉย ก็เล่นไปจนท่อนสร้อย ‘บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ’ พอจบ ทุกคนในงานสตันต์กันหมด จนน้องต้องลุกขึ้นมานำไชโยเอง
เคยคุยกับคุณจีน AF1 ที่รายการนี้เหมือนกัน การไปเล่นดนตรีในงานแต่งงาน
คุณจีนนี่ก็มีเรื่องฮาเหมือนกัน เขาไปเล่นงานหนึ่งที่ต่างจังหวัด ทีมงานก็บรีฟอย่างดีว่าจะมีคนมารับคุณจีนนะ พอไปถึงสนามบินที่นั่นก็หาตัวกันอยู่นานก็ไม่เจอ ปรากฏว่าคนที่มารับเข้าใจว่ามารับคนจีน เลยเตรียมป้ายเป็นภาษาจีนมา (ฮา)
หรือมีวงดนตรีวงหนึ่งชื่อ Bomb At Track จะไปเล่นดนตรีต่างจังหวัดเหมือนกัน คราวนั้นจะโหลดของลงใต้เครื่อง ซึ่งดันเขียนที่กล่องว่า ‘BOMB AT TRACK!!!’ ป๋าเต็ดเดินมาดูก็บอกว่า “ผมว่า…กล่องนี้ไม่น่าจะผ่านนะ”
หลังไมค์เพจโถ
เรื่องที่ฮิตมากคือ มีผู้หญิงส่งรูปมาให้ดูว่าแฟนซื้อกีตาร์มา บอกว่าราคาเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งถูกกว่าราคาจริงมาก ผมก็เลยเอาไปแปะหน้าเพจ ถามลูกเพจว่าคิดยังไง ปรากฏว่าที่ฮาคือ ลูกเพจพากันเข้ามาปกป้องแฟนหนุ่มกันใหญ่ บอกว่าซื้อมาถูกแล้ว ต่างๆ นานา
ผมจะพยายามไม่ตัดสินอะไร ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็จะไม่ออกตัวไปยุ่งมากนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องเบาๆ ไม่หนักหนาอะไรนักก็เอามาเฮฮากันหน้าเพจนี่แหละ
แอดมินนิรนามที่ไม่เปิดเผยตัว
พี่สึดพยายามไม่เปิดเผยตัว เพราะคิดว่าหลายครั้งการที่คนรู้ว่าเราทำเพจดังในวงการก็ทำให้คนที่รู้ปฏิบัติตัวกับเราอีกแบบหนึ่ง ซึ่งผมไม่ชอบ ผมอยากทำตัวสบายๆ มากกว่าเป็นพี่สึดที่ทุกคนเกรงใจ
แต่ก็มีบางคนที่ผมไปเล่นด้วยแล้วรู้สึกชอบใจ ก็จะมอบสติกเกอร์ของเพจให้แทนคำบอกเล่าว่าผมคือพี่สึด ซึ่งหลายคนก็แปลกใจ
มีครั้งหนึ่งไปเที่ยวลาว แล้วเจอวงดนตรีที่นั่นเล่นดีมาก ผมก็เข้าไปขอแจม แจมเสร็จก็ฟินมาก รู้สึกดีมาก เลยเอาสติกเกอร์ให้เขาไป กะว่าไม่ได้อะไรมาก แต่วงดนตรีวงนั้นกลับรู้จักเราซะงั้น เขาบอก “อ้ายคือ…อ้ายสึด ใช่บ่?” มันประทับใจมาก เขาบอกที่ลาวเพจเราดังมากเลย
อยากบอกอะไรน้องๆ ที่กำลังเริ่มเล่นดนตรี
พวกเขาควรมองไปข้างหน้า นอกจากการเล่นดนตรี เราก็ควรมีการวางตัว ต้องวางตัวให้ดี ใจกว้างใจดีกับทุกคน เพราะการอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญของวงการดนตรี เมื่อเขาต้องการคนอย่างเรา เขาก็จะนึกถึงเรา
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องซ้อม ไม่ใช่แค่เล่นแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้นนะครับ แต่ซ้อมเพราะจะได้รู้ว่าเราจะเป็นนักดนตรีอย่างไรต่อไป หาสไตล์ของตัวเอง หาตัวตนของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราควรจะโดดเด่นออกมา มีทักษะพิเศษที่ไม่เหมือนใครที่ทุกคนต้องการ และให้ราคาที่ดี
สิ่งนั้นจะทำให้เราได้ไปเล่นในที่ที่พิเศษ และเขาก็จะมีราคาที่พิเศษให้ เพราะวงคุณคือวงที่พิเศษ แต่ถ้าทำงานออกมากลมกลืนกับคนอื่นๆ ไปหมด เราก็ต้องไปแข่งในตลาดที่มีคนเล่นอยู่เยอะไปหมด ก็ต้องแย่งชิงกันเหมือนวิ่งเข้ามาในสุขุมวิทช่วงเช้าๆ เนี่ย อย่าเป็นแบบนั้น ขอให้เป็นรถที่วิ่งออกไปนอกกรุงเทพฯ ดีกว่า
คำถามจากทางบ้าน
1. อยากบอกอะไรกับเจ้าของผับที่จ้างนักดนตรีบ้าง – อยากบอกว่าร้านแต่ละร้านก็มองนักดนตรีต่างกัน บางที่มองเป็น decorate บางที่อาจมองเป็นตัวดูดลูกค้า ผมมองว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ในแง่ลูกจ้างกับนายจ้างนะ มันเป็นการพึ่งพิงกันมากกว่า เพราะถ้าเราเล่นเพลงมีรสนิยมที่ดี ร้านก็จะได้ลูกค้าที่รสนิยมดีเข้ากับร้าน
ฉะนั้น ร้านควรให้ตัวตนกับนักดนตรี ให้เขาสามารถเล่นเพลงที่เขาต้องการเล่นได้ และแบ่งมาเล่นเพลงที่ร้านอยากให้เล่นได้เช่นกัน
2. คิดอย่างไรกับการตัดราคา – ผมว่ามันเป็นเรื่องของเด็กนะ เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่เล่นดนตรี เริ่มรับงานก็งงนะ ไม่รู้ว่าเรตราคามันคือยังไง อยู่ตรงไหน งกๆ เงิ่นๆ ยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ เทียบกับวงที่มีประสบการณ์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ผมว่าก็แฟร์ดีถ้าน้องๆ จะรับอีกราคาหนึ่ง เอาจริงๆ ถ้าเด็กที่เพิ่งเริ่มๆ เล่นดนตรีมารับราคาเดียวกับผม ผมโกรธนะ แต่ถ้าคนที่มีประสบการณ์พอๆ กัน มารับราคาแบบตัดกันอย่างนั้น น่าโกรธกว่า
3. ได้ทิปเยอะสุดเท่าไร และมีวิธีปฏิเสธเล่นเพลงที่โดนขออย่างไรให้เนียน – ได้ทิปเยอะสุดคนละเป็นหมื่นเลยนะ งานนี้มันพิเศษอย่างตรงที่ ถ้าเราไม่หยุดพัฒนาตัวเอง มันจะพาเราไปที่ที่เราไม่เคยไป ไปกินอะไรที่เราไม่เคยกิน ผมมีงาน Private Event เยอะ เป็นพื้นที่ที่เราไม่มีทางเข้าไปได้ ซึ่งเขาก็จ้างเราราคาดี ถ้าเขาพอใจก็จ่ายเพิ่ม โอนตามมาก็มี
ส่วนวิธีปฏิเสธเพลงที่เล่นไม่ได้หรือไม่อยากเล่น ถ้าเนียนสุดก็บอกว่าเล่นไปแล้ว มันมีเหมือนกันนะ ที่เราเพิ่งเล่นเพลงนั้นจบไปเมื่อกี้ แล้วเหมือนเพลงมันไปแล่นอยู่ในหัวเขาตอนคุยกับเพื่อนน่ะ สรุปเขาก็ขอเพลงนี้ขึ้นมาให้เราเล่นอีก เพราะไม่รู้ว่าเราเล่นไปแล้ว ไม่ได้ฟัง แต่รู้สึกมีเมโลดี้เพลงนี้วิ่งอยู่ในหัว
4. มีเพลงไม้ตายไหม และเพลงที่พอเถอะ ไม่ต้องขอกูแล้ว มีไหม – ผมว่ายุคนี้เพลง ‘พอเถอะ’ มันไม่มีแล้ว ยุคนี้มันฟุ้งมาก ไม่มีเพลงไหนที่มาสุดๆ สักเพลงเดียวเลย อย่างเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ก็ไม่ได้โดนขอกันตลอดขนาดนั้น ส่วนเพลงไม้ตาย ยุคก่อนหน้านี้สัก 4-5 ปี ต้องเล่นเพลง รักเดียว ปู พงษ์สิทธิ์ รับรองลูกค้าหันกันทั้งร้าน ลองดูครับ
Credits
The Host แพท บุญสินสุข
The Guest พี่สึด เพจโถชีวิตนักดนตรี
Show Creator แพท บุญสินสุข
Show Producer นทธัญ แสงไชย
Episode Editor นทธัญ แสงไชย
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์
Proofreader พรนภัส ชำนาญค้า
Photographer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Music Westonemusic