วันนี้ (20 ตุลาคม) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนและจะเข้าฤดูหนาว มีแนวโน้มความกดอากาศที่สูงขึ้น อากาศไม่ถ่ายเท จะทำให้มีฝุ่นละอองสะสม และจากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 โดยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า สถานการณ์ที่ฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) จะคงอยู่อีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ชัยระบุว่า โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 กรมควบคุมมลพิษได้ปรับปรุงค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เป็น 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (เดิม 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ) และปรับปรุงค่าดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย (Air Quality Index: AQI) ให้สอดคล้องกับค่ามาตรฐานใหม่ ทำให้ระบบการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร การรายงานคุณภาพอากาศ การคาดการณ์คุณภาพอากาศ ได้รวดเร็วขึ้นผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4Thai พร้อมขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังได้เตรียมและยกระดับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงปี 2567 เช่น การกำหนดพื้นที่เป้าหมายแบบมุ่งเป้าลดพื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่เผาซ้ำซาก คือ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ, การจัดระเบียบควบคุมผู้ใช้ประโยชน์ การทำกติการ่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน การเพิ่มประสิทธิภาพการบัญชาการสถานการณ์ไฟป่า การตั้งจุดตรวจสกัด พร้อมดึงประชาชนเข้ามาเป็นแนวร่วม และเร่งนำระบบการรับรองผลผลิตทางเกษตรแบบไม่เผา (GAP PM2.5 Free) มาใช้ สร้างกลไกการบริหารจัดการระดับชาติและระดับจังหวัด ยกระดับการเจรจาเป็นระดับทวิภาคีและใช้เงื่อนไขทางการค้าเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนแก้ไขปัญหา ให้สิทธิประโยชน์และแรงจูงใจตอบแทน โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ 1. พื้นที่เผาไหม้ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวน ลดลงร้อยละ 50 2. พื้นที่เกษตรกรรมเผาไหม้ ลดลงร้อยละ 50 3. ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ลดลงร้อยละ 40 และ 4. จำนวนวันที่ฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน ลดลงร้อยละ 30
“รัฐบาลคำนึงถึงคุณภาพอากาศที่ดีและปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังสถานการณ์ วางแผนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว ระมัดระวังและดูแลตัวเองเป็นพิเศษ พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างใกล้ชิด” ชัยกล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) วันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 05.00-07.00 น. โดยตรวจวัดได้ 26.4-55.7 มคก./ลบ.ม. มีค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 39.7 มคก./ลบ.ม. ซึ่งค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 48 พื้นที่ แนะนำควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลียควรปรึกษาแพทย์
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา) ในช่วงวันที่ 20-28 ตุลาคม 2566 การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน อาจส่งผลต่อค่าความเข้มข้นของ PM2.5 ที่สูงขึ้นในบางพื้นที่