วันนี้ (16 ธันวาคม) ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 24-98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จำนวน 39 พื้นที่คือ
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2: มีค่าเท่ากับ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ: มีค่าเท่ากับ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี: มีค่าเท่ากับ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน: มีค่าเท่ากับ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค: มีค่าเท่ากับ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: มีค่าเท่ากับ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร: มีค่าเท่ากับ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน: มีค่าเท่ากับ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา: มีค่าเท่ากับ 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย: มีค่าเท่ากับ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน): มีค่าเท่ากับ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค: มีค่าเท่ากับ 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ: มีค่าเท่ากับ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง: มีค่าเท่ากับ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต: มีค่าเท่ากับ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง: มีค่าเท่ากับ 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์: มีค่าเท่ากับ 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์: มีค่าเท่ากับ 62 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ: มีค่าเท่ากับ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน: มีค่าเท่ากับ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่: มีค่าเท่ากับ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า: มีค่าเท่ากับ 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง: มีค่าเท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี: มีค่าเท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์: มีค่าเท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง: มีค่าเท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนสันติภาพ เขตราชเทวี: มีค่าเท่ากับ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต: มีค่าเท่ากับ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี: มีค่าเท่ากับ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก: มีค่าเท่ากับ 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ: มีค่าเท่ากับ 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ: มีค่าเท่ากับ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย: มีค่าเท่ากับ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่: มีค่าเท่ากับ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่พบว่าอยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลต่อสุขภาพ
โดยมีคำแนะนำให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น และทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า