สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 รุนแรงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ จากการที่ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
สำหรับในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจสูญเสียไปจากการปรับพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อหลีกเลี่ยงหรือป้องกันการเผชิญฝุ่นละออง เช่น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบคือร้านอาหารข้างทาง สวนอาหาร หรือร้านอาหารที่อยู่ในที่โล่งแจ้ง รวมไปถึงกลุ่มร้านค้าที่ขายของริมทางและตลาดนัดต่างๆ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินค่าเสียโอกาสในส่วนนี้
เป็นมูลค่าประมาณ 200-600 ล้านบาท (คำนึงถึงผลบวกที่อาจจะเกิดขึ้นต่อร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบริการจัดส่งถึงที่พักแล้ว)
THE STANDARD สอบถามไปยังผู้ให้บริการในกลุ่ม Food Delivery พบว่าภาพรวมของการสั่งอาหารออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นราว 5-20% อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มองว่าการเติบโตทั้งหมดอาจจะไม่ได้มีสาเหตุจากปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 เพียงอย่างเดียว เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก ทั้งการทำการตลาดผ่านโปรโมชันส่วนลดต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม Country Marketing Head แกร็บ ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าผู้บริโภคของ GrabFood เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปีที่แล้ว และในช่วงระหว่างวันที่ 7-20 มกราคมนี้ จำนวนออร์เดอร์ได้โตขึ้นอีก 20% จากช่วงปกติ โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง เช่น ทองหล่อ สีลม สาทร อโศก
โดยช่วงเวลาที่คนมักสั่งอาหารมากที่สุดจะเป็นช่วงที่ตรงกับมื้ออาหาร คือช่วงมื้อกลางวันและมื้อเย็น อาหารประเภทที่คนชอบสั่งมากที่สุดคืออาหารไทย อาหารอีสาน ไก่ทอด และชานมไข่มุก
“ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ผู้บริโภคนิยมใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ฝุ่นมีส่วนช่วยให้ออร์เดอร์โดยเฉพาะในเขตเมืองเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลามื้อเที่ยงและมื้อเย็นที่ผู้บริโภคอาจจะเลือกรับประทานอาหารในออฟฟิศหรือที่บ้านมากขึ้น”
ขณะเดียวกัน จากสภาพอากาศที่เป็นอยู่ในขณะนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่ต้องประกอบกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลายาวนาน รวมถึงผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ ทาง Grab จึงได้มอบหน้ากากกรองอากาศ 20,000 ชิ้นให้แก่พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่เพื่อสวมใส่ขณะปฏิบัติงาน รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลตัวเองในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นรุนแรงผ่านการสื่อสารทางแอปพลิเคชัน
ด้าน GET ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET มองว่าการที่ฝุ่นในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการสั่งฟู้ดเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นบ้างในบางส่วน เพราะบริการฟู้ดเดลิเวอรีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนกรุงเทพฯ ในช่วงนี้ เมื่อเปรียบเทียบรายสัปดาห์กับช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มียอดการสั่งอาหารเพิ่มขึ้นราว 5-12% แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเป็นช่วงที่ไม่ได้มีแคมเปญพิเศษก็ตาม
สำหรับช่วงเวลาที่คนสั่งมากยังคงเป็นมื้อกลางวันและมื้อเย็น โดยอาหารเย็นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และอาหารที่นิยมสั่งส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นอาหารมื้อหลัก ซึ่งความจริงฝุ่นในกรุงเทพฯ ไม่ได้กระทบพฤติกรรมการสั่งอาหารตรงส่วนนี้เท่าไรนัก
“แต่ทั้งนี้ยอดที่เพิ่มขึ้นน่าจะมีปัจจัยมาจากหลายส่วน ทั้งจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น และคนออกไปข้างนอกกันน้อยลง อย่างที่สังเกตได้คือคนสั่งมื้อเย็นที่บ้านกันมากขึ้น ทำให้จากที่ทำงานสามารถตรงกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องผจญกับมลพิษระหว่างทาง”
สำหรับมาตรการดูแลคนขับของ GET จะใช้วิธีการสื่อสารให้คนขับทุกคนป้องกันตัวเอง โดยมีหน้ากากเตรียมไว้ให้สำหรับคนขับ รวมถึงประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุเพื่อผู้ขับขี่ของ GET ในระยะยาว
สุดท้าย LINE MAN วรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN ให้ข้อมูลว่าในช่วงเดือนมกราคม LINE MAN มีการเติบโตของธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาจากเดือนก่อนหน้า โดยมองว่าการเติบโตนี้เกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประกอบกัน
ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของตลาดเดลิเวอรี ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ปัจจัยจากสภาพอากาศและจราจร ส่วนปัจจัยภายใน ได้แก่ โปรโมชันประจำเดือนมกราคม ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดยอดธุรกรรมและการสั่งอาหารประเภทจานหลักเพิ่มขึ้น ตลอดจนการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างนครปฐมและสมุทรสาคร เสริมจากเมืองพัทยาที่ LINE MAN ขยายพื้นที่บริการไปก่อนหน้านี้ในปี 2562
“ในปีนี้มีการสั่งอาหารประเภทจานหลักเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งที่ผ่านมาจะเป็นอาหารว่างและเครื่องดื่ม เช่น เมนูยอดนิยมอย่างชาไข่มุก โดยช่วงเวลาที่คนสั่งเยอะสำหรับวันธรรมดาจะเป็นช่วงกลางวันและช่วงเย็น ขณะที่วันหยุดจะเป็นช่วงเย็น”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคนขับ LINE MAN มีเป็นพื้นฐานในสวัสดิการของพนักงานขับอยู่แล้ว ซึ่งพนักงานขับนั้นมีการดำเนินงานโดย Lalamove
