×

นายกฯ ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค เสริมสร้างโครงข่ายคมนาคมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน

โดย THE STANDARD TEAM
27.06.2020
  • LOADING...

วันนี้ (27 มิถุนายน) นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าโครงการที่ไทยดำเนินการร่วมกับมิตรประเทศ เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค และชื่นชมแต่ละโครงการมีพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งเป็นผลงานต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลนี้ตั้งใจเร่งดำเนินการเพื่อให้เห็นผลสำเร็จ โดยมีรายละเอียดการพัฒนา ดังนี้ 

 

งานก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)

 

  1. ได้รับงบก่อสร้างปี 63 แบ่งเป็น 3 สัญญาก่อสร้าง
  • สัญญา 1 งานถนนฝั่งไทย ค่างาน 831 ล้านบาท ผ่านการประกวดราคา ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญาเดือนกรกฎาคม 63
  • สัญญา 2 งานด่านฝั่งไทยรวมถนนภายใน ค่างาน 883 ล้านบาท ผ่านการประกวดราคา ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญาเดือนกรกฎาคม 63
  • สัญญา 3 งานสะพานไทย-ลาว ค่างาน 1,263 ล้านบาท (ไทย 787 ล้านบาท ลาว 476 ล้านบาท โดยลาวกู้เงิน NEDA จากไทย) คาดว่าจะประกาศประกวดราคา ภายในเดือนกรกฎาคม 63 และคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในเดือนสิงหาคม 63

 

  1. ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี (ผูกพันงบประมาณปี 63-65)

 

โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย 

 

ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 60 โดยมีก้าวหน้าใน 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 

 

  1. ส่วนงานโยธา แบ่งออกเป็น 14 สัญญา โดยกำลังดำเนินการก่อสร้าง 2 สัญญา อยู่ระหว่างรอลงนาม 7 สัญญา อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อนุมัติสั่งจ้าง 3 สัญญา จัดเตรียมเอกสารประกวดราคา 1 สัญญา และอยู่ระหว่างพิจารณาเอกสารประกวดราคา 1 สัญญา 

 

  1. ส่วนผลการจัดทำร่างสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมถึงจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาร่วมกันจนได้ข้อยุติในส่วนของร่างสัญญา 2.3 และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 63 ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. ได้เห็นชอบร่วมกันในหลักการร่างสัญญา 2.3 โดยเมื่อผ่านขั้นตอนตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามในสัญญาดังกล่าวได้ไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

 

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคเหล่านี้ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างโครงข่ายเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน สนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและภูมิภาค ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising