วันนี้ (8 สิงหาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เยี่ยมชมการบริหารจัดการช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่ทะเลอันดามันที่ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และดูเต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า ประมาณ 40% ที่บาดเจ็บจากขยะในทะเล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขยะจากกิจกรรมประมง รวมถึงพลาสติกต่างๆ โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำว่า ต้องสร้างจิตใต้สำนึกให้คนทราบด้วย เพราะสัตว์ทะเลหายากเสียชีวิตจากความสะเพร่าหรือมักง่ายของมนุษย์
ย้ำสร้างความเสมอภาค ปรับบ้านพักข้าราชการให้ดีขึ้น
โอกาสนี้นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมบ้านพักของเจ้าหน้าที่ โดยบอกว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วง อนุมัติงบประมาณบ้านพักให้กับข้าราชการทหารและตำรวจ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ก็มีพนักงานอยู่ตรงนี้ เพราะเท่าที่เห็นบ้านพักเก่ามากแล้ว ที่นี่อยู่กันร้อยกว่าครอบครัว อยากให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยจ่ายในอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ขอฝากไว้เป็นนโยบาย ทุกอย่างต้องค่อยๆ ทยอยทำเพื่อเป็นตัวอย่าง ย้ำตรงนี้เราให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ข้าราชการ จะได้ไม่ขาดแคลนบุคลากรที่อยากจะเข้ามารับใช้ประเทศชาติ เพื่อเขามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดยต้องสร้างให้เสมอภาคเท่าเทียมกันด้วย สิ่งที่ต้องมีคือกฎกติกา ไม่เช่นนั้นบ้านจะเสื่อมโทรม คนที่มาอยู่ในวันข้างหน้าจะลำบาก
สั่งตั้งอุปกรณ์เตือนภัย
จากนั้นนายกฯ ได้ประชุมพิจารณามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่ม พร้อมระบุว่า ตนเดินทางมาที่นี่ตั้งแต่คราวที่แล้ว พื้นที่สีแดง 3 จุดในเกาะภูเก็ต ถ้าไม่ทำแผนป้องกัน เมื่อเข้าฤดูฝนจะเกิดปัญหา ขอให้เป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงอันตรายที่เราต้องดูแลกันต่อไป และให้กรมทรัพยากรธรณีตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนภัยทั้งน้ำป่า ภัยพิบัติ และโคลนถล่ม ซึ่งต้องมีการซักซ้อม เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน
พร้อมกันนี้ให้ร่วมกันออกแบบการเฝ้าระวังและเตือนภัยทั้งในภูเก็ตและพื้นที่อื่นซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง โดยใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ
ไหว้พระวัดฉลอง จุดประทัด 6,000 นัด เสริมสิริมงคล
ขณะที่ช่วงบ่าย นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) พร้อมจุดประทัดจำนวน 6,000 นัด เพื่อถวายหลวงพ่อแช่มและเพื่อความเป็นสิริมงคล
ภายหลังจุดประทัด เจ้าหน้าที่ได้นำหางประทัดมาให้นายกฯ ดู โดยนายกฯ ได้โชว์ต่อสื่อมวลชนพร้อมบอกว่า มีเลข 87 และ 829 ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต่างเข้ามาถ่ายรูปเพื่อนำไปเสี่ยงโชคต่อ
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้ทักทายตำรวจท่องเที่ยวที่ปฏิบัติหน้าที่ในวัดฉลอง รวมถึงอาสาสมัครที่สถานทูตแต่ละประเทศ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาขอถ่ายรูปและจับมือ ทั้งชาวสเปน จีน มาเลเซีย อินเดีย โปแลนด์ ซึ่งหนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวโปแลนด์บอกว่ารู้สึกโชคดีที่ได้เจอนายกฯ ในวันนี้
คิกออฟ Phuket Sandbox อนุรักษ์ 72 หาดไทย หวังลดขยะหลุดลงทะเล
จากนั้นนายกฯ เป็นประธานเปิดโครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติฯ และเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการ Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย ภายใต้โครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติฯ ที่หาดป่าตอง และรับฟังรายงานสถานการณ์ขยะทะเลของภูเก็ต และมาตรการจัดการขยะทางทะเล ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปีในพื้นที่ 14 หาดของภูเก็ต เพื่อเป็นต้นแบบในการลดขยะชายหาด ก่อนขยายไปยัง 72 หาดทั่วประเทศ ครอบคลุมอีก 6 จังหวัดชายฝั่งทะเล ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ระยอง และตราด
โอกาสนี้นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมบูธของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยมีจิตอาสาจากแอฟริกาใต้ และเยาวชนจากหมู่บ้านไม้ขาว ร่วมกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่ได้ผลิตสินค้าจากขยะทะเล โดยนายกฯ อุดหนุนพวงกุญแจที่ทำมาจากขยะ จำนวน 4,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้อาสาสมัครและเยาวชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมขอบคุณอาสาสมัครที่เข้ามาทำโครงการนี้ในเมืองไทย
จากนั้นนายกฯ ระบุว่า รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริ แนวพระราชปณิธาน และพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีขยะหลุดลอยลงทะเลมากที่สุดของโลก รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินโครงการ Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ ดูแลรักษาความสวยงามของชายหาดและท้องทะเลไทย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศต่อไป พร้อมคาดหวังว่า ความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการดำเนินการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการสร้างพื้นที่ต้นแบบที่สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ชายหาดในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญนำไปสู่การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกบนชายหาดและในท้องทะเลอย่างยั่งยืน คงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลและชายฝั่งของไทย ตลอดจนพร้อมที่จะส่งต่อมรดกอันล้ำค่าต่อไป
ก่อนที่นายกฯ จะทำกิจกรรมร่อนทรายคัดแยกขยะร่วมกับเยาวชน อาสาสมัคร นักท่องเที่ยว และกลุ่มก้าวพลาด ท่ามกลางความสนใจจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก