ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับรางวัลอันทรงเกียรติ สุดยอดผู้ประกอบการส่งออกที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce, Thailand) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ PM’s Export Award 2023 ยังได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเหมือนเช่นเคย ที่พิเศษและเป็นไฮไลต์สำหรับปีล่าสุดซึ่งเป็นปีที่ 31 ของการมอบรางวัลนี้ก็คือ ได้มีการมอบ 40 รางวัลให้กับสุดยอดผู้ประกอบการ และยังได้มีการประกาศถึงความพร้อมนโยบาย ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ดันธุรกิจไทยเติบโต เร่งเสริมแกร่งด้วย Soft Power ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ดันภาคส่งออกก้าวสู่ทศวรรษใหม่ ให้เติบโตด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์
งานประกาศและมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award 2023 จัดอย่างยิ่งใหญ่ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี 2566 หรือ ‘Prime Minister’s Export Award 2023’ ครั้งที่ 31 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการดีเด่นภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเอง นำนวัตกรรมมาประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจ และดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด BCG Economy Model สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ เป็นเครื่องมือรับรองด้านการดำเนินธุรกิจ การสร้างมาตรฐานสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ พร้อมระบุว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจการค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้ประเทศไทยต้องตื่นตัวในการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกมิติ รวมถึงภาคการส่งออกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกนับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ภายใต้บริบทโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รัฐบาลเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก เน้นการสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยใช้ ‘การทูตเชิงรุก’ สร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศด้วยการเจรจา ได้รับความร่วมมือจากภาคการค้าเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างตลาดใหม่และรักษาตลาดเดิม รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยการพัฒนาสินค้าด้วยการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทย
บางส่วนของผู้ประกอบการ ที่ได้รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติจากนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้รัฐบาลยังได้กำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนการส่งออกผ่านนโยบายสำคัญ ประกอบด้วย
- นโยบาย ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ มุ่งใช้นวัตกรรมการเกษตรมาเพิ่มปริมาณผลผลิต
- นโยบายต่างประเทศ ใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เร่งกระชับความสัมพันธ์
- นโยบาย ‘Soft Power’ มุ่งพัฒนาคน โดยเฟ้นหาศักยภาพของคนไทยทุกครอบครัว
- สานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality มุ่งใช้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ รางวัล PM’s Export Award ประจำปีนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเหลือเกินว่าผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาสินค้าและบริการกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งด้านการประกอบธุรกิจ ด้านนวัตกรรม ด้านแบรนด์ และด้านการออกแบบ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ จึงเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการภาคส่งออกของไทยจะสามารถต่อยอดและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงแนวคิด ‘Better Vision Brighter Future’
ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น PM’s Export Award ที่กระทรวงฯ ได้จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2535 มีผู้ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้นจำนวน 798 รางวัล จาก 257 บริษัท และในทศวรรษใหม่กับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 31 ดำเนินการภายใต้แนวคิด ‘Better Vision Brighter Future: เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทยมุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ’ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) ทั้งนี้ การคัดสรรผู้ประกอบการภาคส่งออกในปี 2566 มีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินให้เข้ารับรางวัลรวมจำนวน 40 รางวัล 37 บริษัท ประกอบด้วย
ลิสต์ผู้ได้รับรางวัล PM’s Export Award 2023
ในการคัดสรรผู้ประกอบการภาคส่งออกในปี 2566 มีผู้สมัครเข้ารับรางวัลทั้งหมดจำนวน 162 ราย ผ่านการพิจารณาเข้ารับรางวัลใน 7 สาขา รวม 40 รางวัล 37 บริษัท ได้แก่
- รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 6 รางวัล ได้แก่
- บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท โกลเบิลฟูดเทรดดิ้ง จำกัด
- บริษัท สยามเฟรช เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
- บริษัท เติมเนเจอร์ อินดัสตรี้ จำกัด
- รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 10 รางวัล ได้แก่
- บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด
- บริษัท มอนตี้ แอนด์ ท็อทโก้ จำกัด
- บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท โรงสีศรีแสงดาว จำกัด
- บริษัท ร้อยแปด ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท มูนเลอร์ คอลเลคชั่น จำกัด
- บริษัท โรงงานสมิทธิ์การ์เม้นท์ จำกัด
- รางวัลธุรกิจ BCG ส่งออกยอดเยี่ยม (Best BCG Exporter) ซึ่งเป็นการปรับจากรางวัลสินค้าส่งเสริมนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) เพื่อให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Bio Circular-Green Economy Model หรือ BCG โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 7 รางวัล ดังนี้
- บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด
- บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด
- บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท นิพพาน อินเตอร์คร็อพ จำกัด
- บริษัท นิว อาไรวา จำกัด
- รางวัลออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 7 รางวัล ดังนี้
- บริษัท เอ.เอ็ม.โอ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
- ครูแม็กสตูดิโอ
- บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด
- พร้อม ดีไซน์
- บริษัท พิงค์ บลู แบล็ค แอนด์ ออเร้จน์ จำกัด
- บริษัท ซูเปอร์กรีน สตูดิโอ จำกัด
- บริษัท ดีเวอร์ฮูด เอชที จำกัด
นายกรัฐมนตรี และแขกผู้มีเกียรติ เยี่ยมชมบูธของผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับรางวัล
- รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise) ประกอบด้วย สาขาโรงพยาบาล / ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง / คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness) สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) และสาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing and Packaging) รวมจำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย
- สาขาโรงพยาบาล / ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง / คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness)
- บริษัท เวชธานี จำกัด (มหาชน)
- สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software)
- บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด
- สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing and Packaging)
- บริษัท กรุงเทพสกรีน จำกัด
- บริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด
- รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 1 รางวัล และ OTOP New Face Exporter จำนวน 1 รางวัล รวมจำนวน 2 รางวัล ได้แก่
- บริษัท หอมมีสุข จำกัด
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญตา (รางวัล OTOP New Face Exporter)
- รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) มีผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาและได้เข้ารับรางวัลรวม 4 รางวัล ได้แก่
- บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท นพดาซุปเปอร์ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท สุคันธา ไทยสแน็ค จำกัด
ผู้ได้รับรางวัล PM’s Export Award ประจำปี 2023 ใน 7 สาขา รวม 40 รางวัล 37 บริษัท
นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจและน่ากล่าวถึงมากก็คือ จากข้อมูลการส่งออกของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในปีนี้ มีส่วนในการสร้างรายได้เข้าประเทศในปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 14,567.65 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.79 จากปีก่อนหน้า และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (เดือนมกราคม-กันยายน) ได้สร้างรายได้ให้แก่ประเทศแล้วประมาณ 12,257.24 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการสนับสนุนการจ้างงานไม่น้อยกว่า 7,654 ราย เป็นเครื่องการันตีแล้วว่า Prime Minister’s Export Award เป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ ความภาคภูมิใจของภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจสนับสนุนธุรกิจส่งออกของไทยให้เติบโตและเข้มแข็งบนเวทีการค้าโลก