วันนี้ (13 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกากับประเทศต่างๆ ทั่วโลกว่า คณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ ที่เราตั้งเมื่อเดือนมกราคม เตรียมพร้อมที่จะรับมือเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนรายละเอียดวันนี้จะมีการคุยกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรามีตัวแทนมาหมดและคุยหมด ก็ต้องค่อยๆ ขยับ ยืนยันว่าแผนที่มีแน่ แต่การเจรจาอะไรกับใครไม่สามารถบอกรายละเอียดทั้งหมดได้ เพราะต้องแฟร์ๆ กับทั้งสองฝ่ายว่าข้อมูลจะไม่หลุด ส่วนทีมพิเศษในการเจรจาที่เอกชนอยากให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้นจะหารือกับเอกชนก่อน เพราะอยากให้ทีมเคลื่อนไหวได้ง่าย รวดเร็ว เนื่องจากบางอย่างรอนานไม่ได้
ยืนยันจัดการยาเสพติดต่อเนื่องและจริงจัง
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล หลังมีอินฟลูเอ็นเซอร์โพสต์ภาพเด็กอายุ 14 ปีเข้ารับการบำบัดว่า เพิ่งตั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุดดูแลเรื่องนี้และให้ดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งได้กำชับและให้ดูแลทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่แล้ว
ยึดมาตรฐานเข้ม หวั่นซ้ำรอยถูกเปลี่ยนรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยการตีความเรื่องมาตรฐานจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ในการแต่งตั้งรัฐมนตรี จะใช้อะไรเป็นมาตรฐาน จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการแต่งตั้ง ครม. แพทองธาร 1 หรือไม่ โดยกล่าวว่า ก็คงต้องประมาณนั้น ไม่อยากให้มีอะไรที่เป็นเรื่องอ่อนไหว พยายามจะตรวจสอบให้ดีที่สุด ด้วยความที่ไม่ได้จบด้านกฎหมาย ตนก็ได้พูดคุยกับทีมงาน ซึ่งได้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว และเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างนานมากๆ เพราะต้องส่งทุกที่
ส่วนรัฐมนตรีทุกคนจำเป็นจะต้องใสปิ๊งเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าทุกคนก็ต้องเหมือนกัน หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกก็ต้องเปลี่ยนรัฐบาลอีก ทุกคนก็คงไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น ตนก็จะพยายามให้ปลอดภัยที่สุดดีกว่า
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียอมรับว่าหน่วยงานที่จะดูเรื่องคุณสมบัติเป็นหลักคือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งต้องทำความเห็นของทุกหน่วยงาน เช่นเดียวกับเรื่องที่จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก็ต้องถามเหมือนกัน เขาก็อยากให้รัฐบาลแข็งแรง ไม่อยากจะให้ความผิดเล็กๆ น้อยๆ หรือเส้นไม่ชัด เพราะจะทำให้ทุกอย่างลำบากไปหมด ไม่ใช่แค่เราคนเดียว
“ทุกๆ ครั้งที่จะต้องแต่งตั้งเราจะทำงานหนัก เนื่องจากไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดหรือเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่ควรจะเป็น จึงต้องตรวจสอบให้ดี ทุกกระทรวงที่จะส่งใครมาให้ต้องเซ็น เขาก็ตรวจสอบกันเอง ถามความเห็นให้ครบ เราก็สบายใจในการเซ็นมากกว่า แค่นั้นแหละ ไม่มีใครอยากทำผิดกฎหรอก” นายกรัฐมนตรีกล่าว