วานนี้ (13 ตุลาคม) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังเผชิญกับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เนื่องจากในช่วงปลายเดือนตุลาคม ระหว่างวันที่ 25–28 ตุลาคม จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ณ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีผู้นำจากหลายประเทศ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม และทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอตัวเป็นตัวกลางเจรจา ระหว่างไทยกับกัมพูชา
สิริพงศ์ระบุว่า การเสนอตัวเป็นตัวกลางของผู้นำสหรัฐฯ หมายความว่า การเคลื่อนไหวของไทยจากนี้ต้องรอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้นำอย่างนายทรัมป์มีแนวทางที่ต้องการหาความร่วมมือ แต่ขณะเดียวกันก็ถืออำนาจทางเศรษฐกิจไว้ในมือ เช่น มาตรการด้านภาษีที่ไทยได้รับการผ่อนปรน 19% ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามท่าทีของแต่ละฝ่าย
ดังนั้น ท่าทีของผู้นำประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่ง และภาพที่ปรากฏต่อสื่อนานาชาติย่อมส่งผลต่อการรับรู้ของโลก ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของนายกรัฐมนตรีในการรักษาภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของชาติ
โฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นอย่างยิ่ง โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่อย่างรอบด้าน รวมถึงเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในลักษณะที่อาจถูกฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างประเทศได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าไทยเตรียมผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอาจถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น สิริพงศ์ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลไม่เคยกำหนดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ โดยการประเมินสถานการณ์และการสื่อสารก่อนหน้านี้มาจากผู้รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง ซึ่งในเวลานั้นประเมินสถานการณ์ไว้เช่นนั้น แต่เมื่อเวลาต่อมาพบว่าทางกัมพูชาได้ใช้โล่มนุษย์ ประกอบกับท่าทีจากนานาชาติที่จับจ้องไทยมากขึ้น ทำให้แผนการต่าง ๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งในพื้นที่ได้ประเมินแล้วว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ
“รัฐบาลยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย และเน้นให้ดำเนินการตามกฎหมาย จากเบาไปหนักตามลำดับ ภายใต้กรอบความยุติธรรมและมนุษยธรรม” สิริพงศ์กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ฝ่ายกัมพูชามีไม้ตายคือการใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา หรือหญิงตั้งครรภ์ เพื่อท้าทายจุดยืนด้านมนุษยธรรมของไทย ซึ่งทำให้ไทยมีทางเลือกที่จำกัดมาก เราต้องเข้าใจเกมของเขา และตั้งอยู่บนความรอบคอบ ดีกว่าปล่อยให้ปัญหาบานปลายจนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในระยะยาว
สิริพงศ์ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไทยยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และนายกรัฐมนตรีอนุทิน ห่วงใยคนไทยทุกคน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดน พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภาคสนามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยความสงบและปลอดภัย