×

พิธาเปิดใจกับสื่อครั้งแรก หลังเปิดตัวพรรคประชาชน เชื่อว่าเท้งนำพรรคได้ดี ไม่มีอะไรต้องแนะนำ

โดย THE STANDARD TEAM
11.08.2024
  • LOADING...

วันนี้ (11 สิงหาคม) ที่จังหวัดราชบุรี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกภายหลังพรรคประชาชนเปิดตัวว่า ในฐานะประชาชน และในฐานะผู้ร่วมงาน ก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย มั่นใจว่าพรรคประชาชนจะสามารถบริหารจัดการได้โดยวิถีทางของพรรค และไม่ได้เป็นเรื่องน่ากังวลใจตั้งแต่ต้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกหลังจากถูกยุบพรรคก้าวไกล พิธากล่าวว่า ส่วนตัวเบาใจ สบายใจ แต่หากให้พูดถึงส่วนรวมก็รู้สึกหนักใจกับระบบการเมือง ระบบสังคม และระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากมีปัญหาต้องแก้ไขเยอะ ส่วนตัวรู้สึกสบายใจดี เมื่อเช้าได้ออกกำลังกายเต็มที่ มันก็เลยเป็นความรู้สึกที่บอกยากนิดหนึ่ง ส่วนตัวก็อย่างหนึ่ง ส่วนรวมก็อีกความรู้สึกหนึ่ง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ออกสื่อแล้วถือว่าพอไปได้หรือไม่ พิธาตอบว่า ไปได้ดีแน่นอน เพราะตนรู้จักณัฐพงษ์มานานมาก ตั้งแต่เริ่มทำการเมืองด้วยกัน ดังนั้นไม่มีอะไรต้องห่วงหรือต้องฝาก เชื่อว่าเขาจะทำได้ดีแน่นอนอยู่แล้ว และมาวันนี้ต้องแนะนำว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ของพรรคประชาชน ซึ่งตนมาช่วยหาเสียงในนามผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน คงต้องปราศรัยถึงณัฐพงษ์ และ ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคด้วย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจถึงการทำงานแบบไร้รอยต่อทั้งในสภาและในพื้นที่

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คนยังติดภาพพิธาเป็นคนนำทัพพรรคอยู่ พิธากล่าวว่า ผมว่าไม่จริงเลยครับ จากตัวเลข สถิติ หรือการตอบรับจากประชาชน ก็สะท้อนอยู่แล้วว่าไม่ได้ยึดติดกับตน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรที่เป็นเทคนิคอยากจะแนะนำณัฐพงษ์หรือไม่ พิธาบอกว่า “ไม่มีอะไรต้องแนะนำ เพราะปกติเขาจะเป็นคนแนะนำผม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ตอนสมัยผมเป็นหัวหน้า แล้วผมฝากคำถามว่าผมต้องการทำแบบนี้ แบบนี้ คุณช่วยไปหาคำตอบมาให้ผมหน่อย ผมจะเล่าให้ฟังว่าคุณเท้งทำให้ผมประทับใจอย่างไร ทั้งคุณเท้งและคุณติ่งมีความคล้ายกันอยู่ แต่ก็มีความต่างที่ลงตัว”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งณัฐพงษ์และศรายุทธิ์สนิทสนมกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทำให้ธนาธรอาจมีบทบาทมากขึ้นในพรรคประชาชน พิธากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนสนิทกันหมด 3 ท ทหาร ด้วยการทำงานอย่างหนัก การแลกเปลี่ยนกันจนกลายเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ครอบครัวของณัฐพงษ์กับครอบครัวของตนก็สนิทกัน จนกลายเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไปแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกว่าใครจะมาเพิ่มบทบาท เพราะพรรคนี้ทำงานเป็นทีมกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากพูดถึง 3 ท กังวลหรือไม่ว่า ท ที่ 3 จะโดนทุบทำลาย พิธากล่าวว่า ไม่กังวล แต่ไม่ประมาท ตอนแรกก็คิดในลักษณะสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังมีความรู้สึกว่า ยังมีความพยายามที่จะทำลายล้างกันอยู่ ดาบสองก็ยังมีโอกาสตัดสิทธิตน จากกรณี สส. 44 คน ถูกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งมีโทษตัดสิทธิตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องทำความเข้าใจ และต่อสู้ให้เห็นว่าในฐานะผู้เสนอกฎหมาย ในฐานะ สส. เป็นเรื่องปกติ และแน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาด แต่เราก็เตรียมตัวให้หนักกว่าเดิม

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่ากรณี 44 สส. จะทำให้พรรคประชาชนไปได้ไม่ถึงปีนั้น พิธากล่าวอีกว่า ไม่กังวล ซึ่งกระบวนการเตรียมการเข้าไต่สวนก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าก่อนที่ลงรายละเอียดไปถึงภาพย่อย เราต้องดูภาพใหญ่ก่อน ว่าเวลาเราลงโทษใครต้องดูที่ความผิดกับสัดส่วนของโทษ ถ้าฐานความผิด หมิ่นประมาท ลักขโมย ยาเสพติด แล้วโทษที่ได้รับเป็นประหารชีวิต ผมว่าตรงนี้มันไม่ได้สัดส่วนกัน ถ้าเกิดจะบอกว่าผิด มันผิดที่จริยธรรม 

 

“คราวนี้จริยธรรมของผม จริยธรรมของเขา หรือจริยธรรมของคนที่อยู่ในที่นี้ มันไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ได้ตัดสินอย่างตรงไปตรงมาได้ แทนที่จะตัดสิทธิกัน ผมก็เห็นว่ามันไม่ยุติธรรมกับเพื่อน สส. ในอดีตหลายคนที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เขาผิดแค่นี้ แล้วเล่นแบบนี้ ไม่มีกฎหมายเอาผิดพวกเขาได้ด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้ใครจะเป็นตำรวจจริยธรรม มันทำให้สังคมอันตราย” พิธากล่าว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คำตัดสินคดียุบพรรคจะกลายเป็นเชื้อเพลิงให้คดีที่ให้ ป.ป.ช. ฟันได้เร็วขึ้นนั้น พิธากล่าวว่า ต้องไปดูคำวินิจฉัยของตุลาการทั้ง 9 ท่าน ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พรรคประชาชนประกาศไม่ลดเพดานแก้ไข ม.112 จะทำให้พรรคเดินไปยากหรือไม่ พิธากล่าวว่า ตนตอบแทนพวกเขาไม่ได้ แต่เชื่อว่าเขามีคำตอบ 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising