×
SCB Omnibus Fund 2024

เมื่อสายลมเปลี่ยนทิศ ‘พิริยะ อินเตอร์เนชั่นแนล’ ร้านดังในแวดวงนักปั่นจักรยาน จึงต้อง Think Big, Start Small, Move Fast

21.09.2021
  • LOADING...
พิริยะ อินเตอร์เนชั่นแนล

ชื่อของ บาส-นพปฎล พิริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิริยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้บุกเบิกและนำเข้าแบรนด์จักรยานและอุปกรณ์ชื่อดังระดับโลก ที่พ่วงดีกรีแชมป์ปั่นจักรยานถ้วยพระราชทาน ซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญทางกีฬามาสร้างธุรกิจของตัวเองจาก ‘ศูนย์’ จนก้าวมาเป็นดาวรุ่ง ยืนอยู่แถวหน้าของธุรกิจขนาดกลาง

 

“จักรยานคือแพสชันของผม ดังนั้นผมจึงหยิบแพสชันมาทำธุรกิจ โดยอาศัยประสบการณ์ที่เป็นนักจักรยานอยู่แล้ว และมีโอกาสไปเรียนยังเบลเยียม ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่ใช้จักรยานเยอะมาก มาเป็นจุดตั้งต้นของธุรกิจ ผมมองเห็นโอกาสจากตัวเลือกอุปกรณ์เกี่ยวกับจักรยานที่มีน้อยในตลาด มาสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง โดยเอาประสบการณ์และตัวเองเป็นที่ตั้ง เพื่อทำความเข้าใจว่าคนไทยกำลังต้องการอุปกรณ์แบบไหน”

 

จากเงินทุน 8 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินตัวเอง คุณแม่ คุณป้า และคุณน้า ก่อร่างสร้างธุรกิจโดยอาศัยประสบการณ์ของตัวเอง จนบริษัทมีรายได้ 30-40 ล้านบาท ซึ่งทำธุรกิจมา 9 ปี นพปฎล ‘ไม่เคยกู้’ แม้แต่บาทเดียว จนวันหนึ่ง SCB SME ก็เข้ามาพอดี

 

“มีจดหมายฉบับหนึ่งจากธนาคารไทยพาณิชย์ส่งมาที่ออฟฟิศว่า อยากเข้ามาขอพบ ตอนนั้นผมไปต่างประเทศ ผมเลยบอกภรรยาว่าปฏิเสธไปเถอะ ไม่ต้องหรอก ไม่เอา ไม่อยากเจอ แต่สุดท้ายผมนัดเจอตอนเวลา 11.00 น. กะว่าคุยเสร็จตอนเวลา 12.00 น. ชั่วโมงเดียวพอ แต่รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น จากที่ตั้งใจจะคุยแค่ชั่วโมงเดียว ผมคุยกับ RM ถึงตอนเวลา 17.00 น. ตอนนั้นผมเหมือนได้เพื่อนใหม่ที่รู้ใจและเข้าใจผม”

 

การเข้ามาของ SCB SME ทำให้ธุรกิจของนพปฎลเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% หลังจากนั้นนพปฎลก็มีโอกาสได้เข้าเรียน SCB IEP ที่เป็นหลักสูตรผู้ประกอบการ ซึ่งหลักสูตรนี้ “ทำให้ผมได้คอนเน็กชัน ได้รู้จักเพื่อนอีกประมาณ 80 ชีวิต ที่สามารถถามและคลายข้อสงสัยที่เราไม่สามารถหาได้จาก Google เป็นแหล่งความรู้ชั้นเยี่ยมที่ SCB SME มอบให้กับผม”

 

ถึงธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้วก็ตาม แต่การเกิดโควิดก็กลายมาเป็นอีกบททดสอบสำคัญในการทำธุรกิจ เพราะจากรายได้หลักร้อยล้านก็ลดลงเหลือเพียง 25% ในปี 2563 ที่ผ่านมา แต่ตัวเขาก็ไม่ท้อ เพราะเชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโต เพราะจักรยาน “เป็นธุรกิจแห่งความสุข ลูกค้าจะซื้อด้วย Emotion ดังนั้นเมื่อมีอะไรมากระทบพวกเขาจึงหยุดซื้อไปก่อน แต่ไม่ได้หายไปเลย คนเล่นกีฬายังมีเท่าเดิม ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะกลับมา ขอแค่เรารอเท่านั้น”

 

ที่ผ่านมา นพปฎลใช้หลักการ 3 ปีปรับใหญ่ 1 ปีปรับเล็ก เมื่อเกิดโควิดจึงใช้โอกาสนี้ในการเริ่มปรับใหญ่ทันที โดยใช้หลักการ ‘Think Big, Start Small, Move Fast’ หรือ ‘คิดให้ใหญ่ เริ่มแบบเล็กๆ และปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว’ แม้พนักงานจะลดลงจาก 28 คน เหลือ 9 คน แต่พนักงานที่เหลือถูกอัปสกิลให้เป็น Multi-Skill ทำงานได้หลายด้าน ขณะที่บริษัทได้เพิ่มธุรกิจออกมาอีก 2 ส่วน คือ สปอร์ตแอนด์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กับอาหารอย่าง B:A:S Beef Alternative Service

 

ส่วนธุรกิจหลักนั้น นพปฎลยังมีการนำสินค้าใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ “เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า” ขณะเดียวกันก็เตรียมเปิดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับขายจักรยานอย่างเต็มรูปแบบของตัวเอง โดยภายในแพลตฟอร์มจะรับชำระด้วย ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ที่เรียกว่า Basket.Bike ให้เข้ากับเทรนด์ยุคนี้

 

นพปฎลย้ำว่า หนึ่งในคนที่คอยอยู่เคียงข้างและทำให้ตัวเขาปรับเปลี่ยนธุรกิจได้อย่างเต็มที่โดยไร้ความกังวลคือ SCB SME ที่เสนอให้พักชำระหนี้ ทำให้ความกังวลด้านการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนธุรกิจ หมดไปทันที ซึ่ง “ถ้าเปรียบ SCB SME เป็นเพื่อนซี้ของผม เขาเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง วันที่คุณทุกข์คุณก็เจอเขา วันที่คุณสุขคุณก็เจอเขา”

 

 

สนใจอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจและการปรับตัวในแบบของ บาส-นพปฎล พิริยะกุล สามารถเข้าไปอ่านได้ที่: https://www.scb.co.th/th/sme-banking/articles/success-story-and-inspiration-case/Noppadon-Success-Stories-SCB-Branding-Campaign.html 

 

ภาพประกอบ: พุทธิพงศ์ โรจน์ศตพงค์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising