ด้วยความที่ ‘ภูเก็ต’ เป็นหัวเมืองที่คึกคักด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากต่างชาติ ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ต่างทุ่มเม็ดเงินลงทุนอย่างคึกคัก รวมถึง CPN เจ้าพ่อศูนย์การค้าของไทยที่ใช้เงินกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท สำหรับจังหวัดนี้เพียงแห่งเดียว
เฉพาะศูนย์การค้าที่เป็นธุรกิจหลักนี้ใช้เงินลงทุนถึง 2 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการบนที่ดิน 111 ไร่ มีพื้นที่โครงการ 4 แสนตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนวิชิตสงคราม ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจของภูเก็ต แบ่งเป็น Floresta ที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวและลูกค้าระดับบนที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนม และ Festival ที่เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่เดินทางมาใช้ชีวิตและพักผ่อนร่วมกัน
อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ‘คอนโดมิเนียม’ ซึ่ง CPN นั้นได้บุกธุรกิจที่อยู่อาศัยมาได้ 10 ปีแล้ว โดยที่ภูเก็ตได้เปิดตัวโครงการชื่อ ‘ฟีล ภูเก็ต’ (Phyll Phuket) ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งที่สองของโครงการ ‘ฟีล’ ต่อจาก ‘ฟีล พหล 34’ และยังเป็นคอนโดแห่งแรกของเซ็นทรัลพัฒนาที่เข้ามาทำตลาดที่ภูเก็ต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- CPN ปิดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ที่ 3,678 ล้านบาท โต 34% มีรายได้รวม 11,133 ล้านบาท เดินหน้าลุยโครงการใหม่พร้อมลงทุนต่างประเทศ
- เผยแผน ‘ธุรกิจ Residential’ ของ CPN หมายมั่นปั้นมือที่จะขยายอีก 50 โครงการ ภายใน 5 ปี
- เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มงบ 1.2 แสนล้านบาท กางแผนธุรกิจ 5 ปี ปั้น 4 ธุรกิจหลักกว่า 180 โครงการ ตามแผน ‘Retail-Led Mixed-Use Development’
“เราซื้อที่ดิน 20 ไร่เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยในเฟสแรกใช้ที่ดิน 6 ไร่สำหรับการพัฒนา” กรี เดชชัย President, Residential Business บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าว “แม้จะเปิดขายในช่วงที่เกิดโรคระบาดแต่จนถึงตอนนี้เราขายได้แล้ว 70%”
เฟสแรกมีมูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท ใกล้กับเซ็นทรัลภูเก็ตเพียง 300 เมตร มีจำนวน 3 อาคาร สูง 8 ชั้น ทั้งหมด 439 ยูนิต ช่วงแรกที่เปิดขายราคาเฉลี่ย 93,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ตอนนี้ได้ขยับมาเป็นราคาเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยมีราคาห้องอยู่ที่ 2.69-6 ล้านบาท
สำหรับห้องที่เหลืออีก 30% กำลังจะเปิดขาย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้โดยจะเริ่มทยอยโอนในช่วงไตรมาส 4 นี้
การขายในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่เริ่มฟื้นตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติท่องเที่ยวภูเก็ตในปี 2566 ช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.3 ล้านคน คาดว่าปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ล้านคนต่อปี โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักอันดับหนึ่ง ได้แก่ รัสเซีย ตามมาด้วยจีน อีกทั้งยังพบดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าชาวยุโรปที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มรัสเซีย
จริงๆ แล้วคอนโดมิเนียมภายใต้ CPN จะมีอยู่ 2 แบรนด์หลัก ซึ่งกรีอธิบายว่า “เอสเซ็นท์จะใช้ตั้งชื่อโครงการที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ส่วนฟีลจะเป็นโครงการที่ห่างออกมาเล็กน้อย แต่ก็สามารถไปยังศูนย์การค้าของเราได้อย่างสะดวก”
ตามแผน ฟีล ภูเก็ต จะใช้งบลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท สำหรับโครงการที่เหลือจะแบ่ง 2 เฟส ซึ่งจะทยอยสร้างในช่วง 5 ปีต่อจากนี้
ปี 2566 ธุรกิจที่อยู่อาศัยของ CPN ตั้งเป้าสร้างรายได้ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว “ซึ่งตัวเลขนี้จะทำให้คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของเครือ นับเป็นครั้งแรกที่ทำสัดส่วนรายได้ 2 หลักตั้งแต่เข้าสู่ธุรกิจนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว” แม่ทัพธุรกิจที่อยู่อาศัย CPN กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนที่ วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ประกาศก่อนนี้ที่ระบุว่าภายในปี 2569 ธุรกิจ Residential จะขยายเพิ่มกว่า 50 โครงการ และเติบโตอย่างยั่งยืนไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี ทำให้ในอนาคตจะมีโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุม 27 จังหวัด มากกว่า 70 โครงการ และมีลูกบ้านเซ็นทรัลกว่า 20,000 ครอบครัว