ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 1/2567 ในเวลา 15.30 น. ต้องขอเลื่อนไปก่อน เนื่องจากได้รับหนังสือจากกฤษฎีกา และจะมีข้อเสนอแนะจาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย หากเรียบร้อยก็จะจัดประชุมทันที เพื่อไม่ให้เกิดความติดขัด ทั้งยังรอให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กลับมาจากต่างประเทศด้วย คาดว่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม หลังประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดระนองในสัปดาห์หน้า
ภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นความเห็นจากกฤษฎีกา ป.ป.ช. พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอมาก็มีน้ำหนักทั้งหมด หากเสนอแนะในสิ่งที่ตรงกับวัตถุประสงค์โครงการก็จะนำมาพิจารณาประกอบด้วย วันนี้เราเถียงกันเรื่องหลักการ วิธีคิด ซึ่งการเถียงกันต้องอิงตามฐานที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ เราอยู่ในระบบทุนนิยมต้องขยับให้เดินหน้าโดยคำนึงถึงจิตใจของพี่น้องประชาชนด้วย
โครงการดิจิทัลฯ พุ่งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่โครงการแจกเงิน เชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า เกิดการจ้างงานซึ่งภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมีโครงการอื่นๆ ของรัฐบาลด้วย ทั้งเศรษฐกิจการค้าและการขับเคลื่อนองค์กรของรัฐ ขออย่าเอาเรื่องวิชาการมาเถียงกัน ให้นำมาเป็นเครื่องพึงระวัง คำนึงถึงชีวิตที่เป็นจริง
“เรายินดีรับฟัง แต่โครงการใดที่เป็นโครงการเดิม ทำวิธีการเดิม เรายังไม่เห็นว่าจะช่วยเศรษฐกิจให้ดีขึ้นอย่างไร เราจึงเสนอสิ่งใหม่” ภูมิธรรมกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถออก พ.ร.บ.กู้เงินได้ จะใช้งบปี 2568 หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่าเราวางกรอบไว้แล้ว รอให้เหตุเกิดก่อน อย่าใช้คำว่า ‘ถ้า’ บ่อย เพราะเป็นเรื่องจินตนาการ เรายืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ นโยบายนี้ไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ แต่พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันคิด ตั้งแต่ก่อนจัดตั้งรัฐบาล และแถลงต่อรัฐสภาอย่างถูกต้องตามกระบวนการ อย่าใช้ประเด็นมาขวางทุกคน ทราบว่ารัฐบาลมีความยากลำบาก เนื่องจากมีกลไกหลายอย่าง และมีเรื่องที่ค้างจากรัฐบาลเดิม ซึ่งเราใช้ไตรมาสแรกของการเข้ามาทำงานของรัฐบาลแก้ไขปัญหา อยากให้ทุกคนดูภาพรวมและดูว่าประเทศชาติจะหลุดพ้นจากวิกฤตได้อย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เศรษฐกิจนั้นวิกฤตจริงหรือไม่ ภูมิธรรมถามว่า ใครเป็นคนกำหนดว่าเศรษฐกิจวิกฤต ถามตนเอง ตนเองบอกว่าวิกฤต ฝ่ายค้านบอกไม่วิกฤตทั้งที่ก่อนหน้านี้จะร่วมรัฐบาลกันบอกว่าวิกฤต เราต้องดูความเป็นจริงไม่ใช่พูดตามวาระทางอารมณ์ หรือวาระทางสถานการณ์ ตอนนี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามกรอบเวลาเดิม ส่วนจะยืดเวลาออกไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรหักล้างที่ทำให้เราต้องผิดเพี้ยนไป
ภูมิธรรมกล่าวว่า อย่ามองอะไรไกลเกินกว่าความเป็นจริง ให้มาช่วยกันคิดว่าจะมีข้อเสนอแนะอะไรบ้างดีกว่า การจินตนาการไปต่างๆ หากรัฐบาลตอบไม่ตรงกันก็จะกล่าวหาว่าไม่พร้อม ไม่ได้ดูมาตั้งแต่ต้น คิดไปทำไป เป็นคำวิจารณ์ที่ไม่มีความรู้สึกร่วมกันในการแก้ไขพัฒนาประเทศ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ เป็นนโยบายที่คิดมาอย่างดี ได้รับการยอมรับจากประชาชน นำมาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และได้แถลงต่อรัฐสภาชัดเจน หากเราไม่ทำและมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมาก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราด้วย