วันนี้ (3 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ตนมองว่าระบบประชาธิปไตยบิดเบี้ยวไม่เป็นครรลองที่ควรจะเกิด การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ที่ตกลงกันว่าจะร่วมโหวตจัดตั้งรัฐบาล โดยประกาศว่าทางพรรคประชาชนจะโหวตให้กับพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ร่วมเป็นรัฐบาล
อย่างไรก็เป็น 3 กลุ่มเหมือนเดิม พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคประชาชนก็มี 2 โหมดในตัวเอง คือทางฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้มาก่อน ในบรรยากาศการเมืองที่เป็นอยู่ มีการซื้อ สส. และดึง สส. ต่างๆ สับสนอลหม่าน ในสถานการณ์ที่เราดูอยู่ขณะนี้กับเศรษฐกิจต่างๆ ที่มีปัญหาทำให้เห็นว่า สิ่งที่สำคัญวันนี้ ถ้าไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นเข้ามาสู่ประเทศได้ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจถูกกระทบและรุมเร้า
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ปัญหาทั้งหมดที่ได้คุยกันฝ่ายกฎหมายคิดว่าควรจะคืนอำนาจให้กับประชาชนไปตัดสินใจ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ เพราะฉะนั้นไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ตัดสินใจอยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย และสถานการณ์ต่างๆ ตนในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาและได้รวบรวมความคิดเห็น และคิดว่าควรจะมีการกราบบังคมทูล ถวายสถานการณ์ต่างๆ ให้พระองค์ทราบ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหานี้
“ผมจึงตัดสินใจที่จะยื่นทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งต้องรอกระบวนการตามประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นเช่นนี้ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องไปพิจารณา”
ภูมิธรรมยืนยันว่า ตนได้ยื่นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่าการยุบสภาคือทางออกทางการเมืองหรือไม่
เมื่อถามว่า ในระหว่างที่ทูลเกล้าฯ ไปแล้วจะสามารถขอสภาเปิดโหวตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเขาจะพิจารณาเดี๋ยวต้องไปว่ากัน แต่ตนได้ทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว