วันนี้ (15 พฤษภาคม) เวลา 13.30 น. พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวผลการเลือกตั้งและการเตรียมความพร้อมหลังการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยดังนี้ ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฏแล้วว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และร่วมสนับสนุนเลือกพรรคเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น อันแสดงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย
ในโอกาสนี้พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง โดยกติกาประชาธิปไตยและโดยสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยได้เคยแถลงต่อพี่น้องประชาชนไว้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีและยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้ พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่าไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือและกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ
แพทองธารกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ได้โทรศัพท์หา และตนเองได้แสดงความยินดีกับพิธาที่ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากจากพี่น้องประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล ต่างคนต่างแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากเคยทำงานในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านกัน โดยได้แจ้ง Contact Person ของพรรคกับพิธาแล้ว เพื่อพูดคุยประสานงานกันต่อไป พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยืนยันที่จะยกมือสนับสนุนพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
ทั้งนี้ พิธาได้กล่าวชื่นชมที่ตนอุ้มท้องหาเสียง เพราะเป็นคุณพ่อก็เข้าใจ ส่วน Mood ในการพูดคุยกันไม่นาน คุยกันไม่นานประมาณ 3-4 นาที ในรายละเอียดขอคุยกันในพรรคอีกครั้ง โดยคณะกรรมการบริหารพรรค
ส่วนจุดยืนในการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 แพทองธารระบุว่า เรามีความชัดเจนว่าไม่สนับสนุนให้ยกเลิกมาตรา 112 และยังยืนยันใช้ช่องทางสภาในการสนับสนุนเรื่องกฎหมายต่างๆ เช่น กรณีที่น้องๆ ติดคุก เราพร้อมพูดคุยกันและรับฟังกันกับพรรคก้าวไกล การพูดคุยกับพิธาในช่วงเช้านี้ยังไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ เป็นเพียงการคุยเพื่อเช็ก Mood ว่าเราโอเคหรือไม่ เรามีในใจอยู่แล้ว ขอคุยทั้งพรรคก่อนเพื่อให้เป็นข้อความเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เห็น MOU ในการร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะทุกเวทีที่พรรคเพื่อไทยไปเรามีข้อตกลงกันว่าจะรวมกันกี่พรรค Condition ของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร ขอให้พี่น้องประชาชนรออีกหน่อย
แพทองธารยอมรับว่า นโยบายของพรรคค่อนข้างตอบโจทย์ประเทศชาติ แต่เข้าใจสิ่งที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลมีจุดแข็ง พรรคเพื่อไทยต้องขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยในทุกพื้นที่ ขอแสดงความยินดีกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทยที่ได้เข้าสภา ส่วน ส.ส. ที่ไม่ได้เข้าสภา พรรคต้องขอขอบคุณด้วยเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาลงพื้นที่อย่างหนัก ที่เกิดขึ้นเราต้องวางแผนว่าจะไปต่ออย่างไร เพื่อให้ประเทศชาติไปต่อ การชนะครั้งนี้ต้องไปข้างหน้าต่อไป อันนี้คือแผนที่ต้องคิด
“การเลือกตั้งก็เหมือนกีฬา มีผู้แพ้ ผู้ชนะ แน่นอนว่าผู้ที่แพ้หรืออันดับ 2 ถามว่ามีความผิดหวังบ้างไหม ก็มีบ้าง เราก็ยอมรับ เพราะมันคือน้ำใจนักกีฬา เมื่อพรรคก้าวไกลได้อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วย แล้วเราก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประเทศชาติที่จะไปต่อได้ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ” แพทองธารกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่าระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ พรรคเพื่อไทยยินดีและพร้อมสนับสนุน การพูดคุยในเบื้องต้นได้ประสานกัน ส่วนการพูดคุยในรายละเอียดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคก้าวไกลรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ 309 เสียง จะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลได้หรือไม่นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลรวมเสียงได้ 300-310 เสียงขึ้นไป มีความเข้มแข็งแน่นอน แต่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต้องอยู่ที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งต้องได้ 376 เสียงขึ้นไป ซึ่งพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต้องแสวงหาเสียงให้ได้ ซึ่งโดยหลักการ ส.ว. ต้องยอมรับเสียงของประชาชน ส่วนการที่จะร่วมหรือไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น อยู่ที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นผู้ดำเนินการ เราจะไม่ก้าวล่วงไปตรงนั้น
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะพูดคุยกับพรรคก้าวไกลแล้วเสร็จเมื่อไร จะร่วมทำงานกันอย่างไรบ้างนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า กระบวนการเพิ่งเริ่มต้น จะมีการพูดคุยกันเบื้องต้น ก่อนจะพูดคุยกันเป็นทางการ ส่วนเงื่อนไขต่างๆ ต้องดูจุดเริ่มต้น พรรคเพื่อไทยจะสรุปทิศทางของพรรคเมื่อไร ต้องฟังพรรคแกนนำก่อน เบื้องต้นยังไม่เห็น MOU ของพรรคก้าวไกล เพราะยังไม่ได้เริ่มพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง
ด้านเศรษฐากล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ควรเฉลิมฉลองให้กับเสียงของประชาชนที่เชื่อในประชาธิปไตย และยินดีกับพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้ง พวกเราพรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล