วันนี้ (17 ธันวาคม) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่วัดสวนแก้ว พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต เดินทางมากราบลาสิกขากับ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
พระมหาสมปองกล่าวว่า วันนี้อยากจะมาลาสิกขากับพระพยอม เพราะเป็นพระที่เคารพเหมือนพ่อ โดยกำหนดการสึกวันเดิมนั้นต้องเลื่อน เพราะฤกษ์เดิมไม่ดี ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 29 ธันวาคมนี้ ในช่วงเช้า และจะไปออกรายการหนึ่งที่เคยรับปากเอาไว้แล้วในวันที่ 30 ธันวาคม พร้อมกับให้สัมภาษณ์เลย ซึ่งสาเหตุที่สึกไม่ได้เกี่ยวข้องกับความไม่เป็นธรรมในวงการสงฆ์ ใครจะขึ้นเป็นเจ้าอาวาสไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ความยุติธรรมในโลกนี้มันไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เราเข้าใจ
อีกเหตุผลหนึ่งที่อยากจะลาสิกขาคือ รู้สึกอิ่มในพระธรรม พระพุทธศาสนา แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังอยู่ในสมอง อยู่ในใจเสมอ และก็อยากกลับไปดูแลมารดา พร้อมกับคิดว่า ถ้าหากลาสิกขาไปแล้วอาจจะได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมมากขึ้น ได้หัวเราะมากขึ้น ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น และไม่กลัวว่าจะมีดราม่าอะไร เพราะว่าไพรวัลย์ได้สึกไปก่อนแล้ว และเราก็มองออกว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี ก็จะทำตาม
พระมหาสมปองกล่าวอีกว่า แพลนที่จะทำหลังจากสึกในวันที่ 30 ธันวาคม ก็จะไปดูหนังและไปกินหมูกระทะในช่วงเย็น หลังจากนั้นก็วางแพลนทำธุรกิจทั้งของใช้ ของกิน เครื่องสำอาง หนังสือ และอีกมากมาย โดยรายได้หลังจากนี้ก็จะหักทุกส่วน 10 เปอร์เซ็นต์จากการขาย เพื่อมอบให้กับวัดและโรงเรียน
นอกจากนี้พระมหาสมปองยังยอมรับว่าสนใจการเมือง เพราะมองว่าการเมืองอยู่รอบตัว แต่จะไม่ลงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพราะอยากเป็นโฆษกพรรคมากกว่า ตอนนี้ได้คุยกับ วัน อยู่บำรุง แล้ว ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอไป 3 ข้อ
- ใช้หนี้ให้ 10 ล้านบาท
- ไม่มีขวัญถุงให้ เพราะเราไม่มีเงินเลย
- มีเงินเดือนให้ทุกเดือน เราไม่ได้ต้องแบ่งพรรคแบ่งพวก
ข้อเสนอ 3 ข้อที่ยื่นไป ถ้าหากพรรคเพื่อไทยไม่ขยับ ก็มีเบอร์ของ สิระ เจนจาคะ ก็อาจจะโทรหาแล้วไปอีกฝั่งหนึ่งเลยก็ได้
พระมหาสมปองกล่าวอีกว่า ที่ตั้งใจไว้คือไม่อยากพูดเหมือนนักการเมืองยุคเก่าที่บอกว่าจะทำเพื่อประชาชนแล้วก็ลืม เอาแต่สนใจผลประโยชน์กันเอง แต่เราอยากออกไปแล้วจะไม่ทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองที่จะไม่ทิ้งประชาชน
ด้านพระพยอมกล่าวว่า เมื่อพระมหาสมปองสึก ยอมรับว่าเสียดาย แต่ไม่เสียใจ อยากฝากถึงพระมหาสมปองว่า หากสึกไปแล้วขอให้คนมองภาพตัวแลดูดี อยากให้คนพูดถึงเยอะๆ ว่าคนนี้คือคนที่แลดูดี ให้สมกับที่ดีแล้วที่สึก
