ภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยมีมติจาก ส.ส. ชัดเจนว่ามีมติไม่ส่งบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยจะสนับสนุนบัญชีนายกฯ ของพรรคอนาคตใหม่ คือธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคู่ต่อสู้กับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา บัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ตามแนวทางของ 7 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย โดยปฏิเสธชื่อของพลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงปฏิเสธการสืบทอดอำนาจ
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยมีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมตั้งแต่เริ่มแรกที่ตัดสินใจ แต่ด้วยกฎกติกาตามรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้แม้พรรคเพื่อไทยมี ส.ส. เป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่มากเพียงพอที่จะฝ่ากติกาได้ โดยย้ำที่จะเดินหน้าจับมือกับ 7 พรรคการเมืองด้วยเสียง 246 เสียงต่อไป เพื่อทำให้ประเทศหลุดพ้นจากสภาวะปัจจุบัน
ภูมิธรรม ระบุว่า พรรคพื่อไทยเป็นพรรคอันดับ 1 แต่ไม่ได้เสนอบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจถึงบทบาทพรรคเพื่อไทยที่พยายามสร้างแนวร่วม เพื่อให้วัตถุประสงค์บรรลุผล แม้พรรคพลังประชารัฐจะรวมเสียงได้ปริ่มน้ำ แม้ได้เสียง ส.ว. ที่โหวตนายกรัฐมนตรีได้ แต่เชื่อว่าการบริหารประเทศจะมีอุปสรรค
ส่วนในการประชุม ส.ส. มีความเห็นแตกเป็นหลายส่วน แต่สุดท้ายทุกคนให้ความสำคัญถึงการแก้ไขปัญหาในอนาคต และได้ทำความเข้าใจกับ ส.ส. ทุกคน ก็เห็นพ้องต้องกันที่จะทำตามมติพรรค โดยไม่ใช่ว่าเลือกเพื่อไทยแล้วได้พรรคอนาคตใหม่ แต่ต้องฝ่าวิกฤตของกลไกกฎหมาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเสนอญัตติในวันที่ 5 มิถุนายน ว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมเสนอญัตติ คือเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีประเด็นในเรื่องของการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และสิทธิของผู้ที่จะโหวตในกรณีวุฒิสภา 250 คนนั้น ที่ถูกเลือกมาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ใช่การเป็นกลางทางการเมือง จึงเป็นไปได้ว่าจะเลือกพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯ และอาจผิดกฎหมายด้วย
ส่วนการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ อยากให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนั้นรัฐสภาจะต้องกลั่นกรองว่าบุคคลเหล่านี้ จะมีคุณสมบัติเป็นนายกหรือไม่
ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เขียนไว้ในข้อบังคับ แต่อาจขอมติจากที่ประชุมให้แคนดิเดตนายกแสดงวิสัยทัศน์ก่อน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการเสนอชื่อของบุคคลภายนอก จึงเกิดปัญหาว่าคนที่จะโหวตให้อาจไม่ใช่ ส.ส. ที่ไม่อยู่ในสภา ดังนั้นถ้าจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ทางรัฐสภาจะต้องมีการอนุญาต
ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 มิถุนายนหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าจะมีการเปิดให้มีการอภิปรายมากพอสมควร แต่ไม่มั่นใจว่าจะจบในวันที่ 5 มิถุนายนหรือไม่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์