×

‘นิทรรศกี’ เพื่อไทยโชว์ผลการศึกษาผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า เตรียมพร้อมผลักดันเป็นนโยบาย

โดย THE STANDARD TEAM
08.03.2022
  • LOADING...
นิทรรศกี

วันนี้ (8 มีนาคม) พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม ‘นิทรรศกี เพื่อผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า’ นิทรรศการศึกษานโยบายการแจกผ้าอนามัยฟรีสำหรับผู้มีประจำเดือนทุกคน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านรายได้และสร้างความเท่าเทียมทางเพศ และมุ่งหวังผลักดันนโยบายผ้าอนามัยฟรี

 

ชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้รับผิดชอบนโยบายผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาออกแบบโครงการ ‘ผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า’ (Free Pads for All) เนื่องจากตระหนักดีว่า ประจำเดือนเป็นเรื่องธรรมชาติตามเพศสรีระที่บ่งบอกถึงวัยเจริญพันธุ์ของมนุษย์ ประจำเดือนและการใช้ผ้าอนามัยจึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และไม่ใช่ความรับผิดชอบของเพศใดเพศหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของสังคม 

 

ทั้งนี้ในเทรนด์ของโลกในปัจจุบัน กำลังหันไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศ หลายประเทศมีนโยบายเกี่ยวข้องกับเรื่องประจำเดือน เช่น สกอตแลนด์ เป็นประเทศแรกที่ทำให้ผ้าอนามัยเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ฟรี หรือในหลายประเทศมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาษี ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ศึกษานโยบายนี้ในหลายประเทศเพื่อใช้เป็นต้นแบบและปรับให้สอดคล้องกับประเทศไทยมากที่สุด 

 

จากการศึกษาในเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่มีประจำเดือนต้องใช้ผ้าอนามัยเดือนละ 15-35 ชิ้น คิดเป็น 350-400 บาทต่อเดือน หรือ 4,800 บาทต่อปี คิดเป็นค่าใช้จ่าย 192,000 บาทตลอดชีวิต ผู้มีประจำเดือนทุกคนต้องสูญเสียเงินหรือโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นเงินสูงถึงเกือบ 200,000 บาท ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำยังอยู่ที่ 331 บาทต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ ในการประเมินทางสถิติพบว่า 64.72% ของผู้เป็นประจำเดือนเข้าไม่ถึงผ้าอนามัยอย่างเพียงพอ บางรายต้องใส่ซ้ำ ต้องหยุดทำงาน หยุดเรียน หรือใช้วัสดุอย่างอื่นแทน เพื่อลดการใช้ผ้าอนามัยเพราะไม่สามารถเข้าถึงได้

 

พรรคเพื่อไทยจึงได้ผลักดันการศึกษานโยบายผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้าด้วยจุดประสงค์ดังนี้ 

 

  1. ลดรายจ่ายประชาชน เพราะผ้าอนามัยคือรายจ่ายในครัวเรือน
  2. ผู้มีประจำเดือนทุกคนต้องเข้าถึงสุขอนามัย
  3. สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ

 

สำหรับผลการศึกษานโยบาย ‘ผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า’ พรรคเพื่อไทยมองเห็นว่า หน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการรับผิดชอบเรื่องนี้คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมประชาชนทุกพื้นที่ สามารถกระจายสิทธิประโยชน์เป็นมาตรฐานเดียวกัน และต้องมีการก่อตั้งกองทุนส่งเสริมสุขภาวะทางเพศในกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค เพื่อเป็นตัวกลางในการจัดสรรงบประมาณ นอกจากนี้ ผลการศึกษาได้ออกแบบระบบการเข้าถึงผ้าอนามัยตามวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของทุกกลุ่มประชากรไว้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 

 

  1. แจกผ่านหน่วยงานใต้การกำกับของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับผู้มีรายได้น้อย เด็กและเยาวชนในวัยเรียนแต่ไม่อยู่ในระบบการศึกษา และผู้มีประจำเดือนในครอบครัวยากจน

 

  1. แจกผ่านสถานบันการศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษาตอนปลายถึงระดับมหาวิทยาลัย เรือนจำและสถานพินิจ  

 

  1. แจกผ่านแอปพลิเคชันของรัฐ โดยให้ประชาชนยืนยันสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน สามารถเลือกรับผ้าอนามัยได้ทั้งรูปแบบ ขนาด และจำนวนที่ต้องการ พร้อมทั้งสามารถเลือกสถานที่รับ หรือเลือกให้จัดส่งตามสถานที่ที่ต้องการ  

 

ชานันท์กล่าวอีกว่า จากการคำนวณราคาผ้าอนามัย จำนวนผู้ใช้ และจำนวนการใช้ คาดว่างบประมาณทั้งหมดจะอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาทต่อปี (หรือคิดเป็น 0.6 % ของงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น) ซึ่งงบประมาณจะมาจาก VAT 7% จากผ้าอนามัย  เป็นสัดส่วนประมาณ  5.04 พันล้านบาท คำนวณจากจำนวนการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตผ้าอนามัย และรัฐบาลต้องสนับสนุนงบเพิ่มเติมประมาณ 1-1.3 หมื่นล้านบาทต่อปี 

 

นอกจากนี้ ทางพรรคเพื่อไทยยังได้มีการทดลองโครงการ ‘ผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า’ ภายในพรรคตั้งแต่วันนี้ เพื่อเป็นการนำร่อง ทดลองนโยบาย และจะนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงนโยบายเพื่อการพัฒนาต่อไป 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X