×

แพทองธารชูนโยบายเพื่อไทยเพื่อคนกรุงเทพฯ ดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เศรษฐาขอพลิกประเทศกลับมาเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย

โดย THE STANDARD TEAM
25.03.2023
  • LOADING...
พรรคเพื่อไทย

วานนี้ (24 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้ง 33 คน ณ สเตเดียม วัน

 

แพทองธารกล่าวถึงเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยที่ ‘คิดใหญ่’ เพื่อพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองหลวงของทุกคนภายใน 4 ปี เพราะหลายปีที่ผ่านมา อนาคตของกรุงเทพฯ ถูกบีบให้แคบลงเรื่อยๆ จากปัญหาความแออัดด้วยความล้าหลังของระบบราชการภายใต้รัฐบาลที่ขาดวิสัยทัศน์ และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยโอกาสที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลวง ทำให้ผู้คนยังคงดั้นด้นเดินทางมาสร้างชีวิตในที่แห่งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

 

กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่รวบรวมทุกความแตกต่าง ทุกคนล้วนมีเรื่องราวและความฝันเป็นของตัวเอง พรรคเพื่อไทยจึงคิดพัฒนาความเจริญทางกายภาพของกรุงเทพฯ บนฐานความเข้าใจในความหลากหลาย ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตให้กับกรุงเทพมหานคร ‘คิดใหญ่เพื่อคนรุ่นใหม่ คิดใหญ่เพื่อคนกรุงเทพฯ’ จึงเป็นแนวทางนโยบายพัฒนากรุงเทพฯ ของพรรคเพื่อไทย

 

ขณะที่ต้องเผชิญสภาวะเศรษฐกิจถดถอย พรรคเพื่อไทยจะช่วยเติมเงินรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท ให้ถึง 20,000 บาททันที เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาทต่อวัน และขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำวุฒิปริญญาตรีเป็น 25,000 บาท จะสำเร็จภายใน 4 ปี

 

พรรคเพื่อไทยจะ ‘คิดใหญ่’ พัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงิน เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และผลักดันให้ประชาชนได้พัฒนาศักยภาพของตนอย่างน้อยครอบครัวละหนึ่งคน ผ่านนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (OFOS) ให้ทุกคนได้เข้าถึงองค์ความรู้ พร้อมไปยืนบนเวทีโลก และสร้างรายได้ใหม่ด้วยทักษะของตน

 

“คุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ต้องสะดวกและปลอดภัยภายใต้การดูแลของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่จะลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้เหลือ 20 บาท ตลอดสาย เพิ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 50 แห่ง 50 เขต แก้ไขปัญหา PM2.5 ที่ต้นเหตุ และวางแผนแก้ไขระยะยาว ให้กรุงเทพฯ ไม่จมน้ำภายในปี 2575 ด้วยนโยบายสร้างเกาะรอบกรุงเทพฯ ให้เป็นเขื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วม และลดความแออัด รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินในการสร้างเกาะและเขื่อนได้อย่างมหาศาล” แพทองธารกล่าว

 

แพทองธารยังได้กล่าวปิดท้ายการปราศรัยในครั้งนี้ด้วยว่า แผนการพัฒนาของพรรคเพื่อไทย เพื่อคนรุ่นใหม่ เพื่อกรุงเทพฯ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ แต่จะใหญ่ขึ้นและสมบูรณ์ขึ้นด้วยนโยบายอีกมากมาย ให้กรุงเทพฯ เติบโตด้วยความมั่นคงและมั่งคั่ง ความหลากหลายจะต้องคงอยู่ แต่ความเหลื่อมล้ำจะหมดไป ภายใต้การดูแลของพรรคเพื่อไทย กรุงเทพฯ จะต้องใหญ่พอสำหรับทุกคน

 

ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย กล่าวปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ว่า กรุงเทพฯ เคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค แต่การทำรัฐประหารได้ผลักไสให้นักลงทุนออกไป ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติหนีออกไปลงทุนที่ประเทศข้างเคียง คนกรุงเทพฯ จึงแทบไม่เหลือโอกาสทางเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถก็อยากออกไปทำงานต่างประเทศ นอกจากนี้ยังทำให้ความหลากหลายทางสิทธิและความงดงามต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ หายไป

 

พรรคเพื่อไทยจึงมีความตั้งใจที่จะทำให้กรุงเทพฯ กลับมาเป็นมหานครอันดับโลกอีกครั้ง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว ตนขอกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของกรุงเทพฯ 3 มิติด้วยกัน

 

มิติที่ 1 คือการเป็นมหานครทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมของเอเชีย ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นจุดหมายปลายทางของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ให้มีการตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างแหล่งเงินทุน ต่อยอดนวัตกรรมและองค์ความรู้ให้กับประชาชนทุกคน ทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมหาอำนาจแห่งเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง

 

มิติที่ 2 การเป็นมหานครแห่งความหลากหลายทางความคิด อัตลักษณ์ และวัฒนธรรม เพราะการที่เมืองหลวงและมหานครใหญ่ทั่วโลกจะเติบโตได้ ปัจจัยสำคัญคือต้องเปิดกว้าง เปิดรับความแตกต่างของคนที่เข้ามาอยู่ ให้เขาได้แสดงออก รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่เพิกเฉยต่อการลิดรอนสิทธิ เพศสภาพ อัตลักษณ์และความคิด คนคิดต่างต้องไม่ถูกทำร้ายและกีดกันการแสดงออกจากเจ้าหน้าที่รัฐ งานศิลปะต้องไม่ถูกตีกรอบด้วยความคิดที่ล้าสมัยในสังคม ต้องเปิดโอกาสเปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้

 

“เราจะทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นสถานที่จัดงานระดับโลก ผลักดัน Soft Power ให้ประเทศไทยเป็นที่จัดคอนเสิร์ต งานภาพยนตร์ งานโฆษณา งานศิลปะและงานวัฒนธรรม เปิดโอกาสให้ต่างชาติได้เห็นฝีมือคนไทย และจะผลักดันความหลากหลายทางเพศ โดยการจัดงาน World Pride ให้ได้ภายในปี 2028” เศรษฐากล่าว

 

มิติที่ 3 การเป็นมหานครแห่งความเท่าเทียม มี ส.ส. ที่รับผิดชอบ รับฟังเสียงของประชาชน ทำลายระบบเส้นสาย

 

ก่อนที่จะกล่าวฝากฝังกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทยว่า “ท่านว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส. ทุกท่าน คนกรุงเทพฯ ล้วนฝากความหวังไว้ในมือของท่านทุกคน ความหวังที่จะทำให้กรุงเทพฯ กลับมาเป็นเมืองสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นศูนย์กลางการบริหาร และเป็นที่พึ่งของประชาชน ความหวังที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครของคนทั่วโลกอีกครั้ง มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ความหวังที่จะนำความภูมิใจของคนกรุงเทพฯ กลับมา ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียอีกครั้ง

 

“ผมขออวยพรให้ทุกท่านได้รับเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เข้าไปทำหน้าที่ในสภา ทำให้ ส.ว. 250 คน ได้ทำตามฉันทามติของประชาชน สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ทำให้ความหวังของคนกรุงเทพฯ เป็นจริง และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของเราทุกคน” เศรษฐากล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising