×

เลือกตั้ง 2566 : ‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ เปิดใจหมดเปลือก ตั้ง 3 เงื่อนไขร่วมงาน เผย จับมือก้าวไกลได้ ย้ำไม่เอา 2 ลุง

โดย THE STANDARD TEAM
09.05.2023
  • LOADING...
พรรคเพื่อไทย

วานนี้ (8 พฤษภาคม) เวลา 19.30 น. แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ออกรายการผ่านทาง TikTok และ Instagram Live หัวข้อ ‘หมดเปลือกเพื่อไทย’ โดยมี คชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรรายการทีวีชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

แพทองธารกล่าวถึงสุขภาพในขณะนี้ว่ายังเจ็บแผล ตื่นบ่อย และเหนื่อยมาก เพราะต้องตื่นขึ้นมาดูลูก อาจจะไม่เต็มร้อย แต่สภาพจิตใจดี ไม่เคยมีลูกสองมาก่อนทำให้ต้องปรับตัว ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บแผลผ่าคลอดอยู่แต่จะรีบหาย และยังไม่ตัดสินใจที่จะมีบุตรเพิ่ม ส่วนการเป็นแคนดิเดตพร้อมการตั้งครรภ์นั้นไม่รู้มาก่อน แต่การมีลูกอยู่ในแพลนชีวิตอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะติดและคลอด ณ วันใกล้เลือกตั้ง

 

เมื่อถามว่าวานนี้มีปรากฏการณ์คนไทยออกไปใช้สิทธิล่วงหน้าประมาณ 92 เปอร์เซ็นต์นั้น เศรษฐากล่าวว่า ดีมาก เพราะว่าเป็นการตื่นตัว ไม่คิดว่าห้างพารากอนจะมีคนคอยเข้าคิว ถือว่าเป็นการดี เข้าใจว่าการเมืองช่วง 8 ปีที่ผ่านมาคงแย่มากๆ คนอัดอั้น ทำให้มาใช้สิทธิล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก

 

ด้านแพทองธารกล่าวว่า เซอร์ไพรส์กับจำนวน และเห็นปัญหาในการเลือกตั้ง อยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันจับตามองการเลือกตั้ง เพราะเราอาศัยแค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ ขอบคุณใครที่เลือกพรรคเพื่อไทย อยากให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ เพราะบางเขตชนะแค่เพียงหลักร้อย ทำให้ทุกเสียงมีค่า

 

เศรษฐากล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 6 วัน ที่มีกระแสว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยมาก็จะไปเล่นเกมจับมือกับ 3 ป. อยู่ดีนั้นว่า เรายึดโยงกับประชาชน ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอา 3 ป. แน่นอน

 

ขณะที่แพทองธารยืนยันว่าไม่จับมือแน่นอน แต่ผลการเลือกตั้งยังไม่ออก พรรคเพื่อไทยมีเกณฑ์อยู่แล้วว่า

  1. ต้องเห็นด้วยกับนโยบายของเรา เพราะเราสัญญากับประชาชนทั้งประเทศไว้
  2. นายกฯ ต้องมาจากพรรคเพื่อไทย และ
  3. รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญต้องมาจากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน

ถ้าพรรคไหนรับข้อเสนอนี้ได้ก็ต้องมาคุยกัน ซึ่งที่มีการพูดถึงในโซเชียลมีเดียเป็นการดิสเครดิต เพราะไม่ว่าเราจะตอบดีแค่ไหน อาจจะเป็นปฏิกิริยาอื่นที่เขามองหา ตอนนี้รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว ถ้ามีอะไรที่เราจะยืนยันได้ก็จะทำตามนั้น

 

เมื่อถามว่า เพื่อไทย x ก้าวไกล เกิดขึ้นได้หรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้รังเกียจฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน เป็นพรรคฝ่ายค้านมาด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ต้องรอเสียงของประชาชนว่าเรายังได้อันดับ 1 หรือไม่ สำหรับนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ยกเลิกมาตรา 112 และเป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยในสภา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทันทีที่เราเป็นรัฐบาลจะขอความเมตตาจากศาลที่มีน้องๆ ติดคุกอยู่ให้พิจารณาและกำหนดกฎหมายการลงโทษใหม่

 

“บ้านเมืองเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองท่าน แต่ไม่ใช่ให้ประชาชนเอากฎหมายนี้มาเป็นเกมการเมือง ไม่ใช่ใครฟ้องได้หมด เราต้องฟังเสียงประชาชน” แพทองธารกล่าว

 

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เศรษฐาย้ำว่าที่ผ่านมาเราอยู่ในหลุมดำแห่งความยากจนภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน และเรื่องของสถานการณ์โควิด ทำให้จมลึกอยู่ในความไม่เท่าเทียม แม้จะมีการช่วยเหลือ แต่จำนวนแค่ 500 บาทไม่เพียงพอ 10,000 บาท จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร ไม่ต้องกู้เพิ่ม

 

“นโยบายต้องกินได้ ครอบคลุมทั้งประเทศไม่ใช่แค่ต่างจังหวัด ต้องทั้งคนเมือง และเพิ่มโอกาส นโยบายเราทันสมัย แต่ที่ผ่านมา 8-9 ปี เราอาจจะไปอยู่ดาวอังคารมา จนเราไม่รู้ว่าต้องพัฒนาไปถึงขั้นไหน แต่นโยบายเหล่านี้จะต้องเอื้อเฟื้อให้ประชาชนตั้งนานแล้ว 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อไทยปรับตัวเยอะมาก คนที่ยังพูดว่าเราโบราณ ได้ติดตามเราอยู่หรือไม่ เพราะตอนนี้เราเข้าถึงวัยรุ่นและ New Voter กระแสมาทางเราเยอะมาก และนโยบายของเราไม่มีความโบราณ” แพทองธารกล่าว

 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยขายความกลัวไม่เหมือนกับพรรคอื่นขายความหวัง เศรษฐากล่าวว่า เราไม่ได้ขายความกลัว เราขายความชัวร์ว่า 8 ปีที่ผ่านมาแย่ขนาดไหน ตกต่ำขนาดไหน เจ๊งขนาดไหน เรายังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนโดยคณะรัฐประหาร มีการสืบทอดอำนาจโดยสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน ที่เป็นต่อ 250 ต่อ 0 จึงต้องเลือกให้ชัวร์ เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ในการจัดตั้งรัฐบาล จะได้ไม่ต้องคาอยู่ในหลุมดำแห่งความไม่แน่นอน ทำให้ต้องมีการดีเลย์จัดตั้งรัฐบาลเข้าไปอีก

 

“พรรคเพื่อไทยมีไม่ได้เลยถ้าประชาชนไม่ซัพพอร์ต เป็นชินวัตรเพราะประชาชน ชินวัตรไม่ได้ซื้อมา ที่คุณพ่อได้เป็นนายกฯ ชินวัตรไม่ได้จ่ายเงิน แต่ประชาชนเลือกมา ถ้ามันซื้อขายกันได้คงไม่เป็นแบบนี้ เรามาได้เพราะประชาชนเลือกเท่านั้น พรรคเพื่อไทยโดนยุบไป 2 รอบ เรากลับมาได้เพราะประชาชนเลือก ไม่มีสิ่งอื่นใด เพราะฉะนั้นชินวัตรหรือไม่ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็ไม่มีสิทธิ” แพทองธารกล่าว

 

เมื่อถามว่าถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลใครจะเป็นนายกฯ ระหว่างแพทองธารกับเศรษฐา แพทองธารกล่าวว่า เราตอบทุกครั้งว่าทุกคนพร้อมเป็น เรามีบทเรียน ถูกยุบมา 2 รอบ เพราะโดนรัฐประหาร บทเรียน 20 ปีที่ผ่านมาทำให้เราไม่สามารถเสนอแคนดิเดต 1 คนได้ เรา 3 คนคุยกันตลอดหากใครได้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องช่วยกัน ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็น อีกคนก็ไม่หายไป เพราะเป็นงานใหญ่ ต้องช่วยกันซ่อมประเทศ คนอื่นอาจจะแย่งกันเป็น แต่ส่วนตัวเชื่อในเศรษฐา และถ้ากลัวการเมืองก็คงไม่เข้ามา อยากทำต่อไปแม้จะไม่รู้ว่าจะมีรัฐประหารเมื่อใด

 

ด้านเศรษฐากล่าวว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะเป็นประกันว่าจะมีตัวแทนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ถ้าแพทองธารเป็นนายกฯ ตนก็ยังอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน เพราะลาออกจากแสนสิริแล้ว คนแก่ตัวอย่างตนกลัวอย่างเดียวคือกลัวไม่มีบ้านอยู่ และหากให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าแพทองธารก็ยังช่วยเหลือกันอยู่

 

เมื่อถามว่าทำไมแคนดิเดตพรรคเพื่อไทยไม่กล้าดีเบต เศรษฐากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของความกล้า ไม่กล้า หรือขี้ขลาด แต่การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเรามีการแสดงวิสัยทัศน์ต่างกันไป ตนเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ นโยบายของพรรคมีความซับซ้อนต้องการความเข้าใจ มีหลายมิติการออกไปพบปะพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่การปราศรัย

 

“ไปถกกันบนเวทีดีเบตมันช่วยตรงนี้หรือเปล่า มันไม่ได้ช่วย ต้องไปหน้าดำคร่ำเครียดลงพื้นที่กับพี่น้องสวนยางจริงๆ ผมมีความพยายาม มีความอยากรู้อยากเห็นในการแก้ปัญหา ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ราคายางกิโลกรัมละ 80 บาท รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ราคายาง 4 กิโลกรัม 100 บาท ผมอยากเข้าถึงประชาชน” เศรษฐากล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising