ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ช่วงหนึ่ง วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส. จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนร่างดังกล่าว
วรวัจน์ระบุว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียน สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้ ซึ่งแนวคิดนี้ไม่เหมือนกับแนวคิดรัฐสวัสดิการที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วต้องหาเงินมาแจก แต่ไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
“สมัยที่พรรคไทยรักไทย โดยการนำของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาล ก็ได้มีการนำนวัตกรรมทางด้านการเงินมาใช้ โดยบอกว่าจะต้องมีรดน้ำต้นไม้ที่ราก คือการใส่เงินไปสู่ประชาชนโดยผ่านหน่วยงานของรัฐให้น้อยที่สุด มีการพูดถึงโครงการกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละ 1 ล้านบาท ก็มีแต่เสียงคัดค้านว่าจะนำเงินมาจากไหน เป็นไปไม่ได้ แต่พรรคไทยรักไทยก็สำเร็จจนเป็นหนึ่งในนโยบายที่ครองใจประชาชนมาจนถึงปัจจุบันนี้” วรวัจน์กล่าว
วรวัจน์กล่าวด้วยว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะใช้เม็ดเงินผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งจะเป็นการใส่เงินให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 10,000 บาท ขณะเดียวกันเมื่อประชาชนใช้จ่ายเงินออกไปแล้วคนอื่นก็จะนำเงินมาจ่ายให้พวกเขาเช่นกัน ไม่ใช่การจ่ายขาด เพราะเป็นการหมุนเวียนมาจากทุกที่ เขาจึงเป็นทั้งผู้จ่ายและผู้รับ ทำให้เงินหมุนอย่างเป็นระบบ ทำให้รัฐบาลมีรายได้จากการเก็บภาษีมากขึ้น ไม่เหมือนแนวคิดเรื่องรัฐสวัสดิการที่คิดแล้วอย่างไรก็จ่ายไม่พอและต้องจ่ายทุกปี จ่ายมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้วรวัจน์ได้นำกระดาษที่มีข้อความ 10,000 บาท มาแจกจ่ายให้กับ สส. ที่นั่งอยู่รอบข้าง ก่อนที่บรรดา สส. จะนำกระดาษเหล่านั้นส่งกลับคืนให้วรวัจน์ เพื่อสาธิตกระบวนการหมุนเวียนอย่างเป็นระบบของเงินดิจิทัล 10,000 บาท
“ในฐานะที่พวกเราเป็น สส. ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน จึงอยากให้ทุกท่านร่วมกันสนับสนุนการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมของรัฐบาลในครั้งนี้ ปล่อยวางความคิดที่คัดค้าน แล้วคิดถึงความลำบากของประชาชนที่รอเม็ดเงินจำนวนนี้อยู่ รวมถึงขอให้กำลังใจ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งใจทำโครงการนี้ แม้จะได้รับแรงกระแทก แต่ท่านก็ยังตั้งใจ เชื่อว่าสิ่งที่ท่านตั้งใจจะเกิดประโยชน์กับประชาชน และสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติในอนาคต” วรวัจน์กล่าวทิ้งท้าย
