วันนี้ (7 พฤศจิกายน) แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยครั้งแรก โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ สส. ของพรรคเข้าร่วมประชุม
แพทองธารกล่าวว่า ขออัปเดตงานตั้งแต่ตนได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยหลักๆ ได้ไปพบทูตหลายประเทศ รวมถึงตัวแทน UN ซึ่งหลายประเทศมีความสนใจเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เป็นอย่างมาก เช่น หลังจากที่คุยกับประเทศเกาหลีใต้ที่เขาทำซอฟต์พาวเวอร์ได้ดีมาก ซึ่งเขาพร้อมซัพพอร์ตเรา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งองค์กรและให้คำแนะนำ เพื่อให้กระบวนการผ่านไปได้อย่างดีที่สุด หรือของสหรัฐอเมริกา เราได้คุยกันเรื่องการศึกษาและทราบดีว่าหากมีนักเรียนที่จะไปแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ จะติดปัญหาเรื่องค่าครองชีพเยอะ
ฉะนั้นเรากำลังคุยรูปแบบว่าจะสามารถเอื้อกันได้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำคอร์สสั้นเพื่อให้มีคนเรียนเยอะมากขึ้น หรือหากเราจะไปเรียน เขาจะสามารถซัพพอร์ตอะไรได้บ้าง โดยเป็นการคุยกันเบื้องต้น แต่เขาพร้อมที่จะซัพพอร์ตเรา
แพทองธารกล่าวต่อว่า ช่วงนี้มีคนพูดว่าเราเข้าใจซอฟต์พาวเวอร์จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถอธิบายให้เข้าใจง่ายคือการใช้พลังอำนาจหนึ่งแบบละมุน ที่ไม่ต้องการใช้อาวุธหรืออะไรที่รุนแรง โดยใช้ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อชนะใจหรือเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมนั้นๆ หรือโอบรับวัฒนธรรมนั้นๆ เข้ามา แต่ซอฟต์พาวเวอร์ที่เรากำลังทำ เราต้องการให้เป็นโกลบอลมากขึ้น โดยเฉพาะ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่เคยแถลงเอาไว้ที่ต้องการให้มีการพัฒนามากขึ้น
“ย้ำอีกครั้งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ขอให้ สส. รวมถึงผู้ช่วย สส. ให้เข้ามาช่วยสื่อสารข้อความที่สำคัญของพรรคและรัฐบาลว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้างกับประชาชนในโซเชียลมีเดียให้รับรู้ได้มากขึ้น” แพทองธารกล่าว
ด้านเศรษฐากล่าวว่า วันที่ 10 พฤศจิกายนจะมีการแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ขอฝาก สส. ให้ช่วยกันโปรโมตในโซเชียลมีเดียด้วย และคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนน่าจะมีความสุข
มีรายงานว่าในการประชุมครั้งนี้ สส. ของพรรคต่างมีกระเป๋าผ้าสกรีนหน้าแพทองธารและเศรษฐาอย่างละด้าน พร้อมเขียนข้อความว่า “เพื่อไทยหัวใจคือประชาชน”
ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติครั้งแรกที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธารในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติกล่าวว่า แผนผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยจะเร่งขับเคลื่อน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งมีเป้าหมายยกระดับทักษะคนไทยจำนวน 20 ล้านคน สู่การเป็นแรงงานทักษะขั้นสูงและแรงงานสร้างสรรค์ ให้สามารถสร้างรายได้อย่างน้อย 4 ล้านล้านบาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านซอฟต์พาวเวอร์ของโลก
มีรายงานว่าจากนี้แพทองธารจะนำประชุมคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ทุกเดือนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ
