การมีหนี้หลายก้อนพร้อมกันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว และทำให้เรารู้สึกท้อแท้ การตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นปิดหนี้ก้อนไหนก่อน จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของการปลดหนี้ทั้งหมด แต่ว่าเราจะปิดหนี้ก้อนเล็กก่อน หรือจะปิดก้อนดอกเบี้ยสูงก่อนดี?
2 กลยุทธ์ปลดหนี้ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก คือ Snowball Method (ลูกบอลหิมะ) ที่เริ่มปิดหนี้ก้อนเล็กก่อน และ Avalanche Method (หิมะถล่ม) ที่เน้นปิดก้อนดอกเบี้ยสูงก่อน ซึ่งทั้งสองวิธีมีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกัน และให้ผลลัพธ์การปลดหนี้ที่ต่างกัน
Avalanche Method (เน้นปิดดอกเบี้ยสูง)
วิธีการหิมะถล่ม คือกลยุทธ์สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด หลักการคือ จัดลำดับหนี้จาก อัตราดอกเบี้ยสูงสุด ไปหาต่ำสุด โดยไม่สนใจยอดหนี้คงเหลือ
วิธีการปฏิบัติ
- จ่ายขั้นต่ำ (Minimum Payment) ให้กับหนี้ทุกก้อน
- นำเงินที่เหลือมา ทุ่มโปะเพิ่ม ไปที่หนี้ที่มี อัตราดอกเบี้ยสูงสุด ก่อน
- เมื่อหนี้ก้อนดอกเบี้ยสูงสุดหมดไป ให้นำเงินที่เคยจ่ายก้อนนั้นไปโปะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดลำดับถัดไป ทำซ้ำไปเรื่อยๆ
จุดเด่น: ประหยัดดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายได้มากที่สุด และทำให้หลุดจากหนี้ได้เร็วที่สุดในเชิงคณิตศาสตร์การเงิน
จุดด้อย: อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะปิดหนี้ก้อนแรกได้ โดยเฉพาะถ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดนั้นเป็นหนี้ก้อนใหญ่ อาจทำให้ขาดกำลังใจและท้อแท้ได้ง่าย
Snowball Method (เน้นปิดก้อนเล็ก)
วิธีการลูกหิมะ คือกลยุทธ์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแรงผลักดันและกำลังใจ หลักการคือ จัดลำดับหนี้จากยอด คงเหลือน้อยที่สุด ไปหามากที่สุด โดยไม่สนใจอัตราดอกเบี้ย
วิธีการปฏิบัติ
- จ่ายขั้นต่ำ (Minimum Payment) ให้กับหนี้ทุกก้อน
- นำเงินที่เหลือมา ทุ่มโปะเพิ่ม ไปที่หนี้ที่มี ยอดคงเหลือน้อยที่สุด ก่อน
- เมื่อหนี้ก้อนเล็กที่สุดหมดไป ให้นำเงินที่เคยจ่ายก้อนนั้นไปโปะหนี้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นลำดับถัดไป ทำซ้ำไปเรื่อยๆ
จุดเด่น: สร้างกำลังใจสูง ปิดหนี้ก้อนแรกได้เร็ว ทำให้มีแรงผลักดันที่จะจัดการหนี้ก้อนอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ เหมือนลูกบอลหิมะที่ใหญ่ขึ้นเมื่อกลิ้งไป
จุดด้อย: อาจทำให้เสียดอกเบี้ยรวมมากกว่า เมื่อเทียบกับวิธี Avalanche เพราะไม่ได้จัดการหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อน
เปรียบเทียบการจ่ายดอกเบี้ยและระยะเวลา
หากลองเปรียบเทียบกลยุทธ์ Snowball และ Avalanche จะเห็นถึงความแตกต่างในการจัดลำดับการชำระหนี้พิเศษ (เงินที่โปะเพิ่ม) และผลลัพธ์ในด้านดอกเบี้ยที่จ่ายไป
หนี้ก้อน A 300,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 16%
หนี้ก้อน B 270,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3%
หนี้ก้อน C 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 5%
โดยสมมติว่า เราสามารถจ่ายเงินพิเศษโปะหนี้ได้ 5,000 บาทต่อเดือน นอกเหนือจากการจ่ายขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อเดือน (รวมจ่ายทั้งหมด 17,000 บาท/เดือน) เรามาดูผลลัพธ์ของแต่ละวิธีกัน
หมายเหตุ: การคำนวณนี้เป็นค่าประมาณการเพื่อให้เห็นความแตกต่างของดอกเบี้ย โดยใช้วิธีคำนวณแบบลดต้นลดดอก (Amortization) ซึ่งเป็นไปตามหลักการของสินเชื่อทั่วไป
- วิธี Snowball (เน้นปิดก้อนเล็กสุดก่อน)
ลำดับการจ่ายพิเศษ: เริ่มต้นที่ หนี้ก้อน C (50,000 บาท) → หนี้ก้อน B (270,000 บาท) → หนี้ก้อน A (300,000 บาท)
จุดเด่น: เราจะสามารถปิดหนี้ก้อนแรก (C) ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จและมีแรงผลักดันในการจัดการหนี้ก้อนอื่น ๆ ต่อไป
ผลลัพธ์โดยประมาณ:
รวมระยะเวลาปลดหนี้: ประมาณ 47 เดือน
ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายทั้งหมด: ประมาณ 64,000 บาท
- วิธี Avalanche (เน้นปิดดอกเบี้ยสูงสุดก่อน)
ลำดับการจ่ายพิเศษ: เริ่มต้นที่ หนี้ก้อน A (16%) → หนี้ก้อน C (5%) → หนี้ก้อน B (3%)
จุดเด่น: การจัดการหนี้ก้อน A ที่มีดอกเบี้ย 16% ก่อน จะช่วยหยุดการทบต้นของดอกเบี้ยที่แพงที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เงินต้นลดลงเร็ว และประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มากที่สุด
ผลลัพธ์โดยประมาณ:
รวมระยะเวลาปลดหนี้: ประมาณ 44 เดือน
ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายทั้งหมด: ประมาณ 53,000 บาท
หนี้ก้อนเล็ก vs หนี้ก้อนดอกเบี้ยสูง ควรเลือกเริ่มปิดก้อนไหนดี?
จากการคำนวณเปรียบเทียบข้างต้น วิธี Avalanche ประหยัดดอกเบี้ยได้มากกว่า วิธี Snowball ประมาณ 11,000 บาท และทำให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้นถึง 3 เดือน
ดังนั้นวิธีการเลือกปิดหนี้ก้อนดอกเบี้ยสูงก่อน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเชิงคณิตศาสตร์การเงินสำหรับสถานการณ์นี้ เพราะช่วยลดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายทั้งหมดน้อยกว่า และโดยรวมจะปลดหนี้ได้เร็วที่สุดเมื่อเทียบในเชิงการเงิน
แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับ ‘นิสัย’ ของเราด้วย หากเราเป็นคนขี้เบื่อ ต้องการกำลังใจ และอยากเห็นความคืบหน้าเร็วๆ เพื่อสร้างวินัยทางการเงิน หรือมีหนี้ก้อนเล็กๆ หลายก้อนที่สามารถปิดได้ไว การเลือกวิธี Snowball จะทำให้เกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว (Quick Wins) ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ช่วยให้มีวินัยในการจ่ายหนี้ก้อนต่อ ๆ ไปได้สำเร็จ
ทางเลือกปลดหนี้อื่นๆ ที่ควรทำร่วมด้วย
การปลดหนี้จะสำเร็จได้ต้องมีปัจจัยเหล่านี้เข้ามาช่วยเสริม
- ห้ามก่อหนี้เพิ่มเด็ดขาด: การปิดบัตรเครดิต หรือเก็บไว้ในที่ที่ใช้ไม่สะดวก เป็นการป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้อีก
- เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย: สร้าง “เงินโปะ” พิเศษให้ได้มากที่สุด การหาอาชีพเสริมหรือลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจะทำให้คุณมีเงินมาจัดการหนี้เร็วขึ้น
- รวมหนี้ (Debt Consolidation): หากมีหนี้ดอกเบี้ยสูงหลายก้อน ลองพิจารณารวมหนี้เหล่านั้นไว้ในสินเชื่อส่วนบุคคล หรือรีไฟแนนซ์บ้าน/รถที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อให้บริหารจัดการง่ายขึ้นและลดภาระดอกเบี้ยโดยรวม
- สร้างเงินสำรองฉุกเฉินก้อนเล็ก: แม้จะอยู่ในช่วงปลดหนี้ แต่การมีเงินก้อนเล็ก ๆ สำรองไว้ (เช่น 1-2 เท่าของยอดจ่ายรายเดือนรวม) จะช่วยให้เราไม่ต้องกลับไปพึ่งหนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้อจำกัดของ Snowball และ Avalanche
แม้ว่ากลยุทธ์ Snowball และ Avalanche สามารถช่วยให้เราปิดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สองวิธีนี้ก็ยังมีข้อจำกัด ถ้าหากว่า
- หนี้หนักเกินกว่าจะจ่ายขั้นต่ำไหว: หากมีหนี้มากจนเงินที่หามาได้ไม่พอจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือน หรือจ่ายได้แต่ไม่มีเงินเหลือดำรงชีวิตเลย กลยุทธ์เหล่านี้ก็ใช้ไม่ได้
- ยังก่อหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง: หากเรายังคงสร้างหนี้ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ก็เหมือนกับการเติมน้ำในถังที่รั่ว ไม่มีทางที่หนี้จะหมดไปได้
เมื่อถึงจุดที่จ่ายไม่ไหว ควรทำอย่างไรต่อ?
- เจรจากับเจ้าหนี้
- อย่าหนี ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ทันทีเพื่อขอ ปรับโครงสร้างหนี้ เช่น
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง
- ขอพักชำระหนี้/ลดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว ในช่วงเวลาที่วิกฤติจริง ๆ
- ขอปิดหนี้ด้วยเงินก้อน เจรจาขอส่วนลดเงินต้นเพื่อปิดบัญชีไปเลย หากมีเงินก้อนจากแหล่งอื่น
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ/คลินิกแก้หนี้
ติดต่อหน่วยงานที่เป็นกลาง เช่น คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอคำปรึกษาและเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกกฎหมายและยืดหยุ่นตามความสามารถในการชำระหนี้
การปลดหนี้ไม่ใช่การวิ่งแข่ง แต่เป็นการเดินทางมาราธอน ที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและวินัยในการจัดการเงินอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าเราจะเลือกปิดหนี้ก้อนเล็กก่อนหรือก้อนที่ดอกเบี้ยสูง สิ่งสำคัญคืออย่าล้มเลิกกลางทาง อดทนจนกว่าจะชำระหนี้ได้หมด แล้วในที่สุดเราก็จะสามารถปลดเปลื้องภาระหนี้ออกจากบ่าได้
ภาพ: Stephen Swintek / Getty Images
อ้างอิง: