×

ผลสอบ ‘เพิ่มพูน ชิดชอบ’ ไม่บกพร่อง ปมไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องบอส อยู่วิทยา แต่พนักงานสอบสวนชุดเก่าโดน ม.157

โดย THE STANDARD TEAM
13.08.2020
  • LOADING...

วันนี้ (13 สิงหาคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ดุลพินิจข้าราชการตำรวจ กรณีไม่เห็นแย้งอัยการคดีบอส-วรยุทธ อยู่วิทยา 

 

พล.ต.อ. ศตวรรษ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบความบกพร่องของ พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ไม่พบความบกพร่อง เนื่องจากการพิจารณาคำแย้งคำสั่งพนักงานอัยการ แย้งได้เฉพาะประเด็นข้อกฎหมาย กฎระเบียบ ว่าตามที่พนักงานอัยการกล่าวอ้างมาถูกต้องหรือไม่ โดยจะนำความในคำพิพากษาศาลฎีกา หรือความเห็นทางกฎหมายจากผู้เชี่ยวชาญประกอบเหตุผลการพิจารณา และพิจารณาจากข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนที่อัยการส่งมาเท่านั้น และแย้งได้เฉพาะประเด็นที่สามารถกลับความเห็นของพนักงานอัยการได้ โดยไม่มีอำนาจทำการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม หรือหยิบยกพยานหลักฐานนอกสำนวนมาพิจารณาได้ 

 

ขณะที่ก่อนเสนอ พล.ต.ท. เพิ่มพูน มีผู้ตรวจสำนวนพิจารณาในกองคดีอาญา 4 ราย ซึ่งทุกคนมีอิสระในการเห็นแย้งหรือไม่แย้งคำสั่งของอัยการ โดยผู้ตรวจสำนวนทุกคนมีความเห็นไม่แย้งตรงกันในประเด็นนี้ 

 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการได้พบข้อบกพร่องหลายแห่ง ที่จะประมวลเสนอ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พิจารณาดำเนินการในประเด็นดังนี้

 

  1. นำเรียนข้อบกพร่องทั้งหมดที่พบของตำรวจ และจะตรวจสอบว่ากรณีใดบ้างที่ ป.ป.ช. ได้พิจารณาชี้มูลไปแล้ว กรณีบกพร่องที่ยังไม่ได้มีการชี้มูลหรือลงทัณฑ์ ทางคณะกรรมการจะพิจารณามีความเห็นเสนอ ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาสั่งการดำเนินการทางวินัยต่อไป หากพบความผิดทางอาญาจะเสนอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไป

 

  1. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เช่น รายงานการคำนวณความเร็วจากผู้เชี่ยวชาญมายืนยันความเร็วที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผู้เชี่ยวชาญอื่นก็ยืนยันที่ความเร็ว 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญแก่คดีที่สามารถพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา เพื่อให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาตามกฎหมายได้ เห็นควรส่งพยานหลักฐานรายละเอียดข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินการ

 

  1. คณะกรรมการตรวจพบความบกพร่องในการดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดให้โทษ ที่ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งกรณีความผิดการเสพโคเคน มีอัตราโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับ 1 หมื่นถึง 6 หมื่นบาท และยังมีอายุความอยู่ เห็นควรให้พนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีในเรื่องนี้ต่อไป

 

ขณะที่ พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่าขณะนี้จากการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนกับการกระทำความผิดตำแหน่งสูงสุดในขณะนั้นคือระดับรองผู้บัญชาการ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร เพราะตนเองไม่ใช่คณะกรรมการทางด้านวินัย แต่หนึ่งในนั้นมีชื่อของ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่จะต้องถูกสอบวินัย และดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กับตำรวจทั้ง 14 นาย เป็นพนักงานสอบสวนชุดเก่า 11 นาย และชุดใหม่ 3 นายที่เกี่ยวข้อง

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising