ย่ำรุ่งวันนี้ (24 มิถุนายน) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กลุ่มราษฎรนัดทำกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์อภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนา 2475 ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่เช้าตรู่มีมวลชนกลุ่มราษฎรมารวมตัวกันที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมทั้งนำป้ายข้อความติดรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกลุ่มราษฎรได้ปิดถนนวงเวียนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อทำกิจกรรม
ขณะที่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน กล่าวถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมชุมนุม ‘ราษฎรยืนยันดันเพดาน’ ว่า วันที่ 24 มิถุนายนปีนี้ เป็นวันครบรอบ 89 ปีประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นวันชาติของราษฎร ราษฎรได้นัดจุดเทียนรำลึกถึงเหตุการณ์การอภิวัฒน์สยาม พ.ศ. 2475 และอ่านแถลงการณ์ฉบับราษฎร รวมทั้งมีการฉายภาพผ่านโปรเจกเตอร์ และเวลา 11.00 น. กลุ่มราษฎรจะเดินเท้าเคลื่อนตัวจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไปรัฐสภา แยกเกียกกาย พร้อมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการแห่หมุดคณะราษฎร เพื่อไปยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต่อประเด็นรัฐธรรมนูญจากประชาชน
ไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า หากระหว่างทางมีการสกัดกั้นการของตำรวจ กลุ่มของตนก็จะปักหลักอยู่ในบริเวณดังกล่าวตามแนวทางสันติวิธี ไม่มีการปะทะ และจะใช้วิธีส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือที่รัฐสภา พร้อมกับตั้งเวทีขนาดเล็กและมีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัย และช่วงเย็นกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน กลุ่มราษฎรจะไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม เพื่อแสดงจุดยืนและยืนยันหลักการข้อเรียกร้อง 3 ข้อดั้งเดิม และที่สำคัญคือประเด็นรัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชน
ด้าน อานนท์ นำภา มั่นใจว่าการออกมาชุมนุมวันนี้ไม่มีข้อกังวลว่าจะถูกถอนการประกันตัวชั่วคราว กลับเข้าเรือนจำ เพราะมั่นใจว่าไม่ผิดเงื่อนไข ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้พูดให้สถาบันกษัตริย์เสียหาย แต่จะพูดในข้อเท็จจริง การปฏิรูปหมายถึงการทำให้ดีขึ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่เห็นต่าง ให้ยืนเฉยๆ ก็ผิดอยู่แล้ว
อานนท์กล่าวอีกว่า การออกมาร่วมเคลื่อนไหวครั้งนี้เห็นว่ายังได้รับเสียงตอบรับ กระแสความคิดก้าวหน้าจากคนรุ่นใหม่ วันนี้มาเยอะกว่าที่คิด วัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงมาเยอะ และมีการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียตั้งแต่ตี 4 นับเป็นหมุดหมายที่ดี และท่าทีของรัฐก็ไม่ได้มองเราเป็นศัตรู เหมือนการชุมนุมช่วงปลายปีหรือต้นปีที่ผ่านมา ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ของคนรุ่นใหม่ต่อข้อเรียกร้องได้พิสูจน์มาให้เห็นระดับหนึ่ง และคนที่สนับสนุนเราก็ยังสนับสนุนเราอยู่
อานนท์กล่าวว่า ไม่กังวลสถานการณ์โควิด-19 เพราะการชุมนุมก็ต้องป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย มีการล้างมือ มีเจลแอลกอฮอล์ มองว่าต้องสร้างภาวะปกติ เพราะโควิด-19 ยังอยู่กับเราอีกนาน ต้องอยู่กับมันให้ได้ ทุกคนก็ต้องรักษาสุขภาพของตัวเอง