แมทธิว แบรนน์ ผู้พิพากษาศาลรัฐเพนซิลเวเนีย ดับความหวังของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะพลิกผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ ด้วยการปฏิเสธรับคำร้องของทีมงานของทรัมป์ที่ต้องการให้ผลการนับคะแนนหลายล้านคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนียเป็นโมฆะ
“มันไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของศาลแห่งนี้ที่จะละเมิดรัฐธรรมนูญ” ผู้พิพากษาแบรนน์แห่งศาลแขวงสหรัฐฯ ใน Middle District ของรัฐเพนซิลเวเนียเขียนในคำตัดสิน พร้อมทั้งระบุด้วยว่าไบเดนชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย และผลการนับคะแนนจะได้รับการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ประจำรัฐในวันจันทร์นี้ โดยไบเดนชนะในรัฐนี้ไปด้วยคะแนนกว่า 81,000 คะแนน
แม้ที่ผ่านมาการฟ้องร้องในลักษณะนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ผู้สนับสนุนและทีมกฎหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะทนายความส่วนตัวของเขา รูดี จูเลียนี ได้ตั้งความหวังไว้กับผู้พิพากษารัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันมาอย่างยาวนาน โดยหวังว่าแบรนน์จะรับพิจารณาคำร้อง ซึ่งจะทำให้ข้อสงสัยของทีมทรัมป์ที่ว่ามีการโกงการเลือกตั้งนั้นมีความน่าเชื่อถือ
หลังทราบผลการตัดสินไม่นาน แพท ทูมีย์ วุฒิสมาชิกรัฐเพนซิลเวเนียจากพรรครีพับลิกัน ได้แสดงความยินดีกับไบเดนในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งขัดกับบรรดาแกนนำพรรคและสมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ในสภาคองเกรสที่ยังคงหนุนหลังความพยายามของทรัมป์ในการเรียกร้องผลการเลือกตั้งใหม่
โดย ส.ว. ทูมีย์ กลายเป็นรีพับลิกันส่วนน้อยที่ยอมรับว่าหนทางในการต่อสู้ทางกฎหมายของทรัมป์มาถึงทางตันแล้ว
“คำตัดสินของผู้พิพากษาแบรนน์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันมาอย่างยาวนาน และเป็นนักกฎหมายที่ยุติธรรมและไม่มีอคตินั้น บ่งชี้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์หมดแล้วซึ่งทางเลือกทางกฎหมายที่เป็นไปได้ที่จะแย้งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรัฐเพนซิลเวเนีย” ส.ว .ทูมีย์ จากพรรครีพับลิกันระบุในแถลงการณ์
การฟ้องร้องในรัฐเพนซิลเวเนียถือเป็นการฟ้องร้องในรัฐใหญ่ เนื่องจากเป็นรัฐที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 20 คะแนน และคำตัดสินของผู้พิพากษาแบรนน์นับเป็นความพ่ายแพ้หรือการถอนคำร้องครั้งที่ 30 เป็นอย่างน้อยของทีมทรัมป์และพันธมิตรนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมาฝ่ายรีพับลิกันชนะในศาลเพียง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นรัฐที่มีคะแนนโหวตน้อยมาก
สำหรับในการฟ้องร้องต่อศาลเพนซิลเวเนีย ทีมกฎหมายของทรัมป์ที่นำโดยจูเลียนีพยายามอ้างว่าสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองอย่างเสมอภาค (Equal Protection) ของผู้ลงคะแนนเลือกตั้งชาวเพนซิลเวเนีย 2 คนถูกละเมิด เพราะรัฐได้อนุญาตให้เคาน์ตีต่างๆ ตัดสินว่าบัตรลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่ถูกส่งเข้ามาในเคาน์ตีของตนแต่มีปัญหาทางเทคนิคนั้นสามารถแก้ได้โดยตัวผู้ลงคะแนนเอง ซึ่งผู้ลงคะแนน 2 รายในคำร้องระบุว่าในเคาน์ตีของพวกเขานั้น พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ ‘แก้’ บัตรลงคะแนน จึงทำให้บัตรลงคะแนนของพวกเขาถูกปฏิเสธ ขณะที่เคาน์ตีอื่นๆ เช่น เคาน์ตีฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเดโมแครตกวาดคะแนนไปอย่างท่วมท้นนั้นอนุญาตให้ผู้ลงคะแนน ‘แก้’ บัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ได้ ทีมทรัมป์จึงอ้างว่าความแตกต่างดังกล่าวหมายความว่าผลการเลือกตั้งของเพนซิลเวเนียทั้งหมดควรถูกขัดขวางโดยคำสั่งศาล ซึ่งในทางทฤษฎีคือการยึดคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ของรัฐนี้จำนวน 20 คะแนนจากไบเดน
อย่างไรก็ดี แบรนน์ปฏิเสธคำร้องดังกล่าวโดยระบุว่า “การแก้ปัญหาบัตรเลือกตั้งที่เป็นโมฆะไม่ใช่การทำให้คะแนนโหวตอีกหลายล้านคะแนนเป็นโมฆะตามไปด้วย” นอกจากนี้ผู้พิพากษาศาลในรัฐเพนซิลเวเนียยังได้ว่ากล่าวตักเตือนทีมทรัมป์ที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงว่ามีการโกงเลือกตั้งหรือข้อกล่าวหาอื่นๆ แม้ว่าจูเลียนีและผู้สนับสนุนทรัมป์กล่าวซ้ำบ่อยครั้งว่ากำลังรวบรวมหลักฐาน แต่ก็ยังไม่เคยมีใครเห็นเป็นรูปธรรม ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้งรวมถึงผู้พิพากษาในหลายรัฐก็กล่าวว่าไม่พบการโกงในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020
ทั้งนี้ เคาน์ตีต่างๆ ในรัฐเพนซิลเวเนียมีกำหนดที่จะรับรองผลการเลือกตั้งในวันจันทร์นี้
ผู้พิพากษาแบรนน์ระบุว่าการพิจารณาตัดสินคดีนี้ต่อไปอาจทำให้การรับรองผลการนับคะแนนต้องล่าช้าออกไป เขาจึงได้ตัดสินปิดคดี โดยคำสั่งศาลบ่งชี้ว่าทีมทรัมป์ไม่สามารถรื้อข้อกล่าวอ้างนี้ขึ้นมาฟ้องร้องใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทีมทรัมป์กล่าวว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของแบรนน์ และตั้งใจที่จะนำคดีนี้ไปสู่ศาลสูงสุดโดยเร็ว
ด้าน ไมค์ กวิน โฆษกของไบเดน ขานรับคำตัดสินของผู้พิพากษาแบรนน์ โดยระบุว่า “ความเคลื่อนไหวเหล่านี้รวมกับผลในรัฐอื่นๆ ของประเทศ ยืนยันได้ว่า โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งปี 2020 และจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ
“คำตัดสินของท่านผู้พิพากษานั้นชัดเจนมากที่สุดแล้ว และประเทศของเราจะไม่ทนต่อความพยายามของทรัมป์ที่จะเปลี่ยนผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้อย่างหมดท่า” กวินกล่าวในแถลงการณ์
ด้านอัยการสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนีย จอช ชาพิโร กล่าวชมคำตัดสินดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “ข้อกล่าวอ้างเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น การฟ้องร้องที่ไม่มีมูลเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องยุติได้แล้ว”
อ้างอิง: