ความสำเร็จของ Peninsula กับตัวเลขผู้ชมกว่า 350,000 คนในโรงภาพยนตร์วันแรก (15 กรกฎาคม) ทำให้หนังซอมบี้เรื่องนี้ได้ทำลายสติถิภาพยนตร์เปิดตัวที่มีผู้ชมสูงสุดในเกาหลีใต้นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19
ยอนซังโฮ ผู้กำกับได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมอยากเล่าเรื่องเกาหลีของคนยุคปัจจุบันหลังการระบาดของฝูงซอมบี้ที่อยู่ทั่วทุกที่ มนุษย์ที่มีชีวิตรอดจะอยู่อย่างไรในโลกใหม่ที่แสนป่าเถื่อน ถ้าโลกที่เขาอยู่มีแต่ฝูงซอมบี้และมนุษย์ที่ไม่มีมนุษยธรรม คุณจะได้พบกับการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของมนุษย์ในยุคหลังโลกล่มสลาย”
Peninsula คือผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของหนังไตรภาคซอมบี้เกาหลีที่เล่าถึงเหตุการณ์ 4 ปีให้หลัง Train to Busan เมื่อการระบาดของซอมบี้กลืนกินไปทั่วคาบสมุทรเกาหลี หนังว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชายที่หวนคืนแผ่นดินบ้านเกิด, กลุ่มผู้รอดชีวิตที่ไม่เคยจากไปไหน, กลุ่มคนวิปริตเพราะสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย และการทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากความบ้าคลั่งของฝูงซอมบี้ที่ดุร้ายและสู้แสงแดดได้มากกว่าเดิมแบบทวีคูณ
ยอนซังโฮได้ให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Peninsula ที่เขาได้นักแสดงแถวหน้าของเกาหลี คังดงวอน มารับบทนายทหารที่กลับไปยังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อปฏิบัติภารกิจ ร่วมด้วย อีจองฮยอน และอีเร สองนักแสดงสาวที่จะมารับบทผู้รอดชีวิตที่รอคอยการช่วยเหลือ
Peninsula ได้รับเลือกไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อีกครั้งในปีนี้ น่าเสียดายที่คุณไม่ได้ไปร่วมงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สำหรับคุณเอง เทศกาลหนังเมืองคานส์สำคัญอย่างไร
เทศกาลหนังเมืองคานส์คือความฝันของผมตั้งแต่ตอนเริ่มทำหนังครับ ปีนี้พอทางเทศกาลเลือกหนังเราไปฉายอีกครั้งหลังจาก Train to Busan ผมรู้สึกขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ
พวกเราหายใจคล่องขึ้นเยอะเลยครับตอนทราบข่าวนี้ เพราะการได้รับคัดเลือกจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ทำให้เราเข้าใจได้ว่าคุณภาพของ Peninsula อยู่ในระดับที่ผ่านการตัดสินของเทศกาลและทำให้คนดูมั่นใจได้
คุณพูดถึง Train to Busan ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ในฐานะผู้กำกับรู้สึกกดดันแค่ไหนกับการทำภาพยนตร์ Peninsula
ถ้าจะบอกว่าไม่กดดันก็คงจะโกหกครับ ผมคิดว่าหลายคนคงอยากรู้เรื่องราวหลังจาก Train to Busan ตัวผมเองก็อยากจะตอบแทนผู้ชมด้วยการขยายมุมมองให้ใหญ่ขึ้น ใน Peninsula ซึ่งอันนี้คือจุดที่ผมรู้สึกเต็มที่มากๆ และรู้สึกสนุกกับการทำงานมากครับ
ผมนึกถึงตอนที่ไปหาโลเคชันถ่ายหนังในปี 2016 ผมพบสถานที่ที่ถูกทำลาย ถูกทิ้งร้างในเกาหลีเยอะมาก ยังหวังอยู่เลยว่าอยากจะมีโอกาสได้ทำหนังเกี่ยวกับความสิ้นสลายเหล่านี้สักวัน ไม่น่าเชื่อว่าฝันผมจะเป็นจริงแล้ว
คุณให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นปีว่า Peninsula ได้ทุนสร้างสูงกว่า ขนาดว่าทำให้ Train to Busan กลายเป็นหนังอินดี้ไปเลย อะไรคือความแตกต่าง และเราจะได้เห็นอะไรใน Peninsula บ้าง
อย่างแรกเลยก็คือผู้ชมจะได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ในพื้นที่ที่ไม่รู้จัก ที่เรียกว่า Peninsula ในช่วงเวลา 4 ปีผ่านไป กับเรื่องราวของตัวละครที่ชื่อ จองซอก คืออย่างใน Train To Busan ผู้ชมจะตื่นตัวไปกับจุดเริ่มต้นของเชื้อไวรัสที่เราไม่รู้จัก ที่เกิดในสถานที่ที่เราใช้ชีวิตประจำวัน แต่สำหรับ Peninsula จะเกิดในสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคย ไม่รู้จักมาก่อน และผู้ชมก็จะมีส่วนร่วมในการสำรวจโลกนี้ไปพร้อมกับตัวละครหลัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากครับ
ส่วนซอมบี้ใน Peninsula ก็จะรวดเร็วกว่า แข็งแกร่งกว่า ซึ่ง จอนยัง ผู้ออกแบบท่าทางให้ซอมบี้ทั้งจาก Train to Busan และ Kingdom ก็จะมารับหน้าที่นี้ต่อใน Peninsula ด้วยครับ
อยากให้คุณเล่าถึงไฮไลต์เดือดๆ ของ Peninsula ในฉากแอ็กชันที่มีการขับรถไล่ล่าซอมบี้ยาว 20 นาที
ไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องก่อนหน้านี้ อย่างใน Train to Busan เรามีรถไฟที่ใช้เป็นศูนย์กลางของฉากแอ็กชัน ใน Peninsula ผมได้ใช้การขับรถไล่ล่าในกรุงโซลที่ถูกทิ้งร้างหลังวันสิ้นโลก
ฉากการขับรถไล่ล่าอยู่ในครึ่งหลังของหนัง ผมตั้งใจมากกับฉากนี้เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกอินเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ การทำงานละเอียดอ่อนมากครับ แค่ฉากเดียวผมใช้เวลากับมันถึง 6 เดือน ตัวรถที่ใช้ถ่ายจะติดอุปกรณ์เสริมพิเศษเพื่อให้ได้ภาพแบบที่ต้องการ นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกกับวิชวลเอฟเฟกต์ในการทำให้ภาพอยู่เหนือความคาดหมายและสร้างประสบการณ์ลุ้นระทึกในแบบที่ใหม่มาก
อีกความยากคือ อีเร (รับบท จุนอี) ต้องขับรถด้วยตัวเอง เพื่อให้ภาพสมจริงที่สุด ความที่เขาเป็นนักแสดงอายุน้อย และต้องมาเข้าฉากที่ต้องการทักษะการขับรถความเร็วสูง เราจึงต้องทำงานกันอย่างรัดกุมและปลอดภัยที่สุด
อีเร ผู้รับบทจุนอี ค่อนข้างเป็นนักแสดงที่ทำงานในวงการได้ไม่นาน คุณมองเห็นอะไรในตัวเธอ
ตอนนั้นพวกเรากำลังหาคนที่เหมาะกับคาแรกเตอร์จุนอี และพอได้พบกับอีเร ผมดีใจมากเลยครับ เพราะเธอเหมาะกับคาแรกเตอร์มากๆ และการแสดงก็ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงฉากแอ็กชันหรือซีนอารมณ์ ผมโชคดีมากครับ จินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นนักแสดงคนอื่น Peninsula จะออกมาเป็นอย่างไร
อยากให้เล่าถึงนักแสดง ทั้งคังดงวอนและอีจองฮยอน ในการทำงานเรื่องนี้
ผมประทับใจทั้งคู่มาก เพราะ คังดงวอน ที่รับบทจองซอก เขาถ่ายทอดซีนแอ็กชันได้ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่นั้น เขายังใส่อารมณ์ของตัวละครลงไปในแต่ละซีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นอารมณ์ส่วนใหญ่ใน Peninsula จึงเปรียบเสมือนตัวของจองซอก
สำหรับ อีจองฮยอน ที่รับบทมินจอง หญิงสาวแข็งแกร่งที่มีบุคลิกเหมือนกับนักรบ และยังเป็นคุณแม่ที่มีหลายคาแรกเตอร์อยู่ในคนคนเดียว ผมมองไว้ตั้งแต่แรกว่าต้องเป็นอีจองฮยอนคนเดียวเลยครับ เพราะการหาคนที่มีคาแรกเตอร์หลากหลายเหมือนอีจองฮยอนยากมาก เช่นเดียวกับตอนที่ผมต้องการนักแสดงที่มารับบท จุนอี ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง
ประเด็นหนึ่งใน Peninsula คือมุมมองความเป็นมนุษย์หลังวันสิ้นโลก อยากให้คุณอธิบายให้ฟังหน่อย
สิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนหลังวันสิ้นโลก จะมีความขัดแย้งกับความเป็นมนุษย์มากครับ มนุษย์ผ่านพ้นช่วงที่โลกพังพินาศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราพยายามให้ภาพยนตร์ถ่ายทอดภาพและความหมายออกมาแบบนั้น
ผมคิดว่าความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ มันมีทั้งโชคดีและโชคร้ายที่คาดไม่ถึง ความวิตกกังวลก็เป็นความรู้สึกที่อยู่คู่ขนานไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าความกลัวทั้งหมดนี้คือความไม่เข้าใจ และได้กลายไปเป็นบางสิ่งบางอย่าง ผมต้องการที่จะบอกเล่าความกลัวนี้ที่ทุกคนจะมีประสบการณ์ร่วมไปด้วยกันได้
อีกอย่างหนึ่งซอมบี้เกาหลีจะไม่ได้มีความเป็นปีศาจหรือสัตว์ประหลาด ในมุมหนึ่ง พวกเขาก็คือเพื่อน ครอบครัว คนแถวบ้าน ซึ่งต่างก็เคยเป็นมนุษย์เหมือนพวกเราที่หลงเหลืออยู่ เพียงแต่ต้องกลายเป็นซอมบี้เพราะตกเป็นเหยื่อในการทำลายล้างโลก คอนเซปต์นี้เป็นมุมมองที่แตกต่าง และผมก็หวังว่าคุณจะได้เห็นเมสเสจที่อยู่ใน Peninsula คือการยังคงมีความหวังแม้ว่าจะอยู่ในยุคหลังวันสิ้นโลก
“ตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมตื่นเต้นมากเวลาได้เข้าโรงหนังไปดูหนังอเมริกันไซไฟอย่าง RoboCop, Terminator, Jurassic Park ทุกวันนี้ผมทำหนัง ขณะเดียวกันก็พยายามจะเรียกคืนความทรงจำเหล่านั้นกลับมา ผมหวังว่าคุณจะตื่นเต้นและได้รับความบันเทิงจากภาพยนตร์ Peninsula นะครับ”
สำหรับ ยอนซังโฮ เขาคือผู้กำกับที่กำลังมีผลงานท็อปฟอร์ม นับจากจุดเริ่มต้นที่เป็นผู้กำกับแอนิเมชันขนาดสั้นหลายเรื่อง จนกลายเป็นที่รู้จักเมื่อแอนิเมชันขนาดยาวเรื่องแรก The King of Pigs (2011) ที่สร้างขึ้นจากส่วนหนึ่งของชีวิตเขาเอง ได้รับคัดเลือกเข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ทั้งยังได้รับรางวัลจากเวทีสำคัญๆ มากมาย
งานแอนิเมชันของยอนซังโฮมักจะเป็นประเด็นมืดหม่น เปิดเปลือยความเป็นมนุษย์และความเป็นจริงในสังคม ผลงานแอนิเมชันขนาดยาวเรื่องที่สอง The Fake (2013) ท้าทายประเด็นองค์กรศาสนา ฉายครั้งแรกที่งานเทศกาลภาพยนตร์โทรอนโตในปี 2013 ตามมาด้วย Seoul Station (2016) แอนิเมชันที่มาของภาพยนตร์ Train to Busan (2016) ซึ่งเราคงไม่ต้องอธิบายอะไรเกี่ยวกับความสำเร็จของภาพยนตร์ชุดนี้กันอีกแล้ว
และในปี 2020 น่าจะเรียกว่าเป็นปีทองของยอนซังโฮอีกครั้ง เพราะเขามีผลงานสำคัญๆ ทั้งรับหน้าที่เขียนบทซีรีส์ The Cursed ให้กับ tvN, กำกับและเขียนบทภาพยนตร์ Peninsula และยังมีงานกำกับซีรีส์ Hellbound กับทาง Netflix ที่น่าจะเริ่มโปรดักชันปลายปีนี้เพื่อเข้าฉายในปีหน้า
Peninsula ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง – (ตัวอย่างซับไทย)
ภาพ: สหมงคลฟิล์ม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: