×

แบงก์ชาติจีนเร่งหาวิธีสกัด ‘เงินหยวนอ่อนค่า’ หลังเรตแลกเปลี่ยนต่ำสุดในรอบ 15 ปี

29.08.2023
  • LOADING...
เงินหยวนอ่อนค่า

เงินหยวนของจีนกำลังวนเวียนอยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2008 และนักวิเคราะห์คาดว่าเงินหยวนจะถูกทดสอบอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่ประเทศยังต้องฟื้นตัวจากการแพร่ของโรคระบาด

 

เงินหยวนอ่อนค่าลง 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ตั้งแต่เริ่มปีนี้ แตะระดับ 7.29 หยวนต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับต่ำสุดเมื่อปีที่แล้วที่ 7.32 หยวนต่อดอลลาร์ ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 15 ปี

 

การอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องได้ส่งสัญญาณให้ทางการจีนและธนาคารกลางจีน (PBOC) เร่งออกมาตรการป้องกันค่าเงินในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า PBOC จะออกมาตรการเพื่อป้องกันการอ่อนค่าของเงินหยวนชั่วคราว แต่โจทย์ใหม่สำหรับจีนเพื่อประคองมูลค่าของเงินหยวนกำลังเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

 

ทำไมเงินหยวนถึงถูกกดดันต่อเนื่อง?

 

เศรษฐกิจจีนยังไม่ดีดตัวอย่างที่คาด หลังหลุดพ้นจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ดำเนินมานาน 3 ปีก่อนหน้านี้ ความกังวลถึงประสิทธิภาพการทำงานของทางการจีนทำให้นักลงทุนเดิมพันว่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลง

 

นอกจากนี้ เงินหยวนยังถูกกดดันต่อเนื่องจากการไม่ชำระคืนหนี้ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่กำลังดิ้นรน ประกอบกับปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่ใกล้ครบกำหนดชำระหนี้ ทำให้จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ

 

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เพิ่มส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจีนกับผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

 

อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดภาวะเงินเฟ้อได้อย่างเต็มที่ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่หลายฝ่ายประเมินไว้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่น่าดึงดูดกว่ากระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตรจีน

 

นอกจากนี้ ผู้ส่งออกจีนยังได้แปลงรายได้จากดอลลาร์ไปเป็นหยวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs เชื่อว่าเกิดจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนเพิ่มเติม เนื่องจากผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีกำไรมากกว่าหลักทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินของจีน

 

ทางการจีนจะดำเนินนโยบายตอบโต้อย่างไร?

 

Ken Cheung หัวหน้านักยุทธศาสตร์สกุลเงินในเอเชียของ Mizuho Bank ระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของจีนคือการที่จีนเหลือทางเลือกในการดำเนินนโยบายไม่มากนัก เพราะ PBOC กำลังใช้เครื่องมือส่วนใหญ่เพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินหยวนอยู่แล้ว 

 

เครื่องมือที่ใหญ่ที่สุดของ PBOC คือการควบคุมการซื้อขายของสกุลเงิน ทุกเช้าก่อนที่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในประเทศของจีนจะเปิด PBOC กำหนดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินหยวนให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่ในช่วงไม่เกิน 2% ของอัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากปกติที่การเคลื่อนไหวจะถูกปรับเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังของตลาด

 

แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ค่าเงินหยวนที่ PBOC กำหนดไว้เป็นระดับที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมาก ถือเป็นสัญญาณเตือนต่อนักลงทุนที่กำลังเดิมพันต่อการอ่อนค่าของเงินหยวน 

 

บรรดาธนาคารจีนที่ดำเนินการโดยรัฐกำลังช่วยเหลือ PBOC ด้วยการซื้อเงินหยวนและขายเงินดอลลาร์สู่ตลาด Onshore และ Offshore เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะไม่เบี่ยงเบนมากเกินไปเมื่อเทียบกับตลาดในจีน

 

นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทางการจีนรู้สึกไม่สบายใจกับการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของเงินหยวน ทางการจีนยังได้บีบสภาพคล่องของสัญญาซื้อขายเงินหยวนล่วงหน้าในตลาด Offshore เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 กลยุทธ์นี้ทำให้ผู้ค้าสกุลเงินในฮ่องกง ลอนดอน และนิวยอร์ก มีราคาขายชอร์ตเงินหยวนที่แพงขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม มาตรการหนึ่งที่ทางการจีนยังไม่ได้ปรับใช้คือ การจำกัดธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการในตลาดระหว่างธนาคารด้วยกันเอง ซึ่งเคยถูกใช้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วเมื่อพันธบัตรสกุลเงินหยวนเผชิญกับการไหลออกที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนทั่วโลกที่ทุ่มซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

 

นักวิเคราะห์เริ่มลดการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อเงินดอลลาร์ เมื่อเร็วๆ นี้ Goldman Sachs ได้ปรับลดการคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าจาก 7.2 หยวนต่อดอลลาร์ เป็น 7.3 หยวนต่อดอลลาร์ ด้าน Société Générale คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปีนี้เงินหยวนจะแตะระดับ 7.6 หยวนต่อดอลลาร์ จากเดิม 7.4 หยวนต่อดอลลาร์

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising