×

Pay It Forward ตอนที่ 3 จดหมายจากความรู้สึกของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว

14.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ปรัชญาเลือกที่จะเล่าเรื่องความฝันของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่คิดเดินทางไปหาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยการเขียนจดหมายแล้วเดินทางตามบุรุษไปรษณีย์คนนั้นไป โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนขายหัวเราะที่เคยอ่านเมื่อสิบปีที่แล้ว
  • ปรัชญาเชื่อในพลังของตัวละครที่เป็นเด็ก และเชื่อว่าพลังแห่งความฝันของเด็กจะกลายเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าใครหลายคนจะมองว่าการกระทำนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระก็ตาม
  • ปรัชญาเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนสามารถทำเพื่อพระองค์ได้ดีที่สุดคือการก้าวเดินต่อไปด้วยความแข็งแรง เพื่อให้พระองค์ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป

 

     ตลอดชีวิตการเป็น ‘พ่อ’ ของคนไทยทั้งแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมอบของขวัญให้กับพสกนิกรชาวไทยเอาไว้มากมายผ่านพระราชกรณียกิจและพระราชดำรัสของพระองค์ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ค่ายหนังดังอย่าง ‘สหมงคลฟิล์ม’ ได้เลือกส่งต่อแรงบันดาลใจที่ได้รับนั้นกลับสู่ประชาชนของพระองค์อีกครั้งผ่านโปรเจกต์ ‘ของขวัญ’

     ของขวัญ โปรเจกต์หนังสั้น 4 เรื่องจาก 4 ผู้กำกับฝีมือดี ประกอบด้วย นนทรีย์ นิมิบุตร, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, ก้องเกียรติ โขมศิริ และชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่จะนำเสนอความประทับใจที่มีต่อรัชกาลที่ 9 ในมุมมองของตัวเอง ทั้งหมดเพื่อเป็นของขวัญและแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนได้ดำรงชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง เพราะถึงแม้พระองค์จะจากเราไปแสนไกล แต่คำสอนและคุณความดีที่พระองค์ทรงสร้างไว้จะยังอยู่ในใจของคนไทยทุกคนตราบนานเท่านาน

 

“เราไม่ต้องมองพระองค์เป็นพระราชาก็ได้ มองพระองค์เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทำอะไรเพื่อส่วนรวม จะเห็นว่าพระองค์ทรงงานหนักมาก เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานทุกๆ คน ถ้าเขียนจดหมายถึงพระองค์ได้ ผมก็จะบอกว่าผมขอบคุณและซาบซึ้งพระองค์มากๆ ในเรื่องนี้”

 

The Letter กำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว

           The Letter นำเสนอความไร้เดียงสาของเด็กชายชาวอีสานที่เขียนจดหมายถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และตัดสินใจออกเดินทางตามจดหมายฉบับนั้นด้วยความหวังที่จะได้พบกับ ‘พ่อ’ ที่เขารักมากที่สุดรออยู่ที่ปลายทาง

           จากการ์ตูนขายหัวเราะที่เคยอ่านเมื่อสิบปีที่แล้ว ปรัชญา ปิ่นแก้ว เลือกนำไอเดียนั้นมาปัดฝุ่นอีกครั้งด้วยการเล่าเรื่องราวความฝันและการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ (สำหรับเด็กตัวเล็กๆ) เพื่อส่งต่อกำลังใจและความรู้สึกดีๆ ให้ทุกคนสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างแข็งแรง อย่างที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงคาดหวังเอาไว้

 

 

จุดเริ่มต้นการเดินทางของจดหมายจากเด็กน้อย

           ก่อนเริ่มโปรเจกต์ ผมมีประสบการณ์ทั้งเป็นผู้ชมและคนทำหนังเกี่ยวกับพระองค์มาเยอะมากจนรู้สึกว่าเรื่องราวแทบของพระองค์ได้ถูกนำมาเล่าไปหมดแล้ว โดยเฉพาะกับคนไทยทุกคนที่รู้จักพระองค์เป็นอย่างดีโดยที่แทบไม่ต้องพูดเลยด้วยซ้ำ ผมเลยอยากหาอะไรที่แตกต่าง เป็นมุมอื่นที่ไม่ค่อยได้เห็นจากหนังเฉลิมพระเกียรติเรื่องอื่นๆ ประกอบกับคอนเซปต์ของโปรเจกต์ Pay It Forward คือการเดินไปข้างหน้าโดยมีพระองค์เป็นแรงบันดาลใจ ผมเลยอยากเล่าเรื่องของคนตัวเล็กๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้าตามความฝันในแบบของตัวเองอย่างตั้งใจ

           เลยเลือกที่จะเล่าถึงเด็กคนหนึ่งที่เขียนจดหมายถึงพระองค์ แล้วคิดว่าถ้าเดินทางตามจดหมายฉบับนั้นไป เขาจะสามารถพบกับพระมหากษัตริย์ที่เขาเคารพได้ ผมได้ไอเดียเรื่องนี้มาจากการ์ตูนขายหัวเราะเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว เขียนโดยคุณนิค (นิพนธ์ เสงี่ยมศักดิ์) เป็นเรื่องของคุณตาคนหนึ่งที่บอกกับหลานว่าถ้าอยากเจอแม่ ให้ตามจดหมายฉบับนี้ไป ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจและปิ๊งขึ้นมาเมื่อต้องทำโปรเจกต์นี้

           ส่วนหนึ่งเพราะผมเชื่อว่าเรื่องเล่าของเด็กน่าสนใจ ตัวละครเด็กมีพลังบางอย่างที่ผู้ใหญ่ไม่มี เวลาเล่าเรื่องผู้ใหญ่ต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลมากๆ ทำให้คนดูตั้งแง่เอาไว้ เวลาเห็นตัวละครนั้นทำเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่ความฝันของเด็กไม่มีกรอบอะไรมาบังคับ เด็กสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจเขาคิด ถ้ามองตามเหตุผลอาจเห็นว่าการเดินทางตามจดหมายของเด็กเป็นเรื่องเล็ก แต่ความรู้สึกในใจของเขายิ่งใหญ่มาก ผมว่าคนดูก็น่าจะสัมผัสในจุดนี้ได้เหมือนกัน

 

 

ของขวัญและจดหมายของนายปรัชญา

           ผมคงเล่าเนื้อหาในจดหมายของเด็กในเรื่องไม่ได้ เพราะทุกคนต้องไปดูด้วยตัวเอง แต่ถ้าผมเขียนจดหมายถึงพระองค์ได้ ใจความจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เหมือนที่ทุกคนรู้สึก อยากเขียนถึงตอนที่พระองค์ทรงงานหนัก อย่างผมเองก็เป็นคนทำงานที่รู้สึกว่าเรามีพันธกิจบางอย่างที่ต้องทำอะไรเพื่อส่วนรวม ซึ่งจุดนี้ของพระองค์ชัดเจนมากๆ เราไม่ต้องมองพระองค์เป็นพระราชาก็ได้ มองพระองค์เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทำอะไรเพื่อส่วนรวม จะเห็นว่าพระองค์ทรงงานหนักมาก เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานทุกๆ คน ถ้าเขียนจดหมายถึงพระองค์ได้ ผมก็จะบอกว่าผมขอบคุณและซาบซึ้งพระองค์มากๆ ในเรื่องนี้

           ส่วนถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่มอบให้พระองค์ได้ ผมคิดว่าพระองค์อยากเห็นคนไทยแข็งแรง การที่คนหนึ่งยอมทำอะไรเพื่อคนหนึ่ง นั่นเป็นเพราะเราเป็นห่วงคนคนนั้น พระองค์ทรงเป็นห่วงพวกเรามากๆ จึงได้ทรงงานหนักเพื่อพวกเราขนาดนี้ เพราะฉะนั้นพวกเราเองไม่ควรทำให้พระองค์ต้องเป็นห่วงเราอีก เราควรแข็งแรง ลุกขึ้นมาเดินได้ด้วยตัวของเรา สู้ได้ด้วยตัวของเรา โดยน้อมนำคำสอนของพระองค์มาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อเดินต่อไปอย่างแข็งแรง

 

 

การทำงานที่เบา สบาย และมีความสุข

           การทำงานอะไรก็ตามเกี่ยวกับพระองค์เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ทุกคนที่รักพระองค์ไม่เคยมีคำถามหรือข้อสงสัยเวลาขอความร่วมมือเพื่อให้งานชิ้นนี้เกิดขึ้น  มันไม่ใช่แค่การทำงานให้ออกมาดี แต่เป็นความพิเศษ เป็นความโชคดีที่มีโอกาสได้ทำงานแบบนี้ นักแสดงและทีมงานทุกภาคส่วนพร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้งานของเราออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ความตั้งใจและความเต็มใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนจะแสดงออกมาชัดเจนมาก มากกว่าการทำหนังแบบปกติที่เคยทำมา     

     ผมเคยทำงานโปรดักชันยากๆ มาเยอะ เวลาทำเสร็จเราจะรู้สึกว่าหายเหนื่อย แต่งานชิ้นนี้ไม่มีอะไรยากเลย ทีมงานทุกคนเห็นภาพชัด โปรดักชันไม่ใหญ่ ใช้เวลา 4 วันในการถ่ายทำ  

     ถ่ายเสร็จผมยังคิดอยู่เลยว่า อ้าว เสร็จแล้วเหรอ ไม่เหมือนกับการทำงานของตัวเองชิ้นอื่นๆ …คงเป็นอย่างที่เขาบอกกันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขจะผ่านไปเร็ว การทำหนังเรื่องนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

           แม้กระทั่งนักแสดงอย่าง น้องธรรมะ (ฐิรพจน์ ต่วนสวัสดิ์) ซึ่งยังเด็กมาก แต่เขาก็สามารถถ่ายทอดความรักที่มีพระองค์ออกมาได้จนทุกคนเชื่อจริงๆ ผมว่าตรงนี้มันอยู่นอกเหนือจากฝีมือด้านการแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่ต้องมีความรู้สึกรักจริงๆ จึงจะแสดงออกมาได้

 

 

ทุกอย่างของพระองค์ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

           ผมเคยได้รับโปรเจกต์ทำหนังเฉลิมพระเกียรติครั้งหนึ่ง แล้วคิดว่าอยากทำเรื่องเกี่ยวกับพระอารมณ์ขันของพระองค์ โดยรวบรวมเรื่องเล่าที่เราได้ยินมาเล่าไว้ในหนังเรื่องเดียว ซึ่งโปรเจกต์นั้นพระองค์ต้องทรงตรวจสคริปต์ด้วยพระองค์เอง ซึ่งเมื่อตรวจ พระองค์ทรงมีรับสั่งมาว่าเหตุการณ์นี้จริงๆ แล้วเกิดขึ้นอีกทีหนึ่ง ทำไมถึงบอกว่าเกิดขึ้นตรงนี้ คือด้วยมุมของคนทำหนัง เราพยายามบิดองค์ประกอบบางอย่างเพื่อให้สามารถถ่ายทำออกมาได้ แต่สำหรับพระองค์ ทุกอย่างต้องถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริง จะบิดเบือนอะไรไม่ได้เป็นอันขาด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X