วานนี้ (10 กุมภาพันธ์) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พร้อมกับ ไกรศักดิ์ เสาเวียง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตดอนเมือง ตรวจสอบปัญหาถนน ทางเท้า และทางม้าลาย บริเวณถนนสรงประภา เขตดอนเมือง โดยบริเวณทางเท้าของถนนสรงประภาช่วงตลาดโอโซนวันพบเป็นลูกคลื่นสูงไม่ต่างจากทะเล วิโรจน์ยืนยันว่า ปัญหาพื้นฐานอย่างทางเท้าเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดที่ต้องแก้ไข แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขตลอดระยะ 7 ปีที่ผ่านมา สะท้อนความล้มเหลวในการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. และการทำงานที่ไม่สอดประสานกันระหว่างทั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก.
วิโรจน์ได้แสดงความคิดเห็นและวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหากับผู้สื่อข่าวว่า “เรื่องทางเท้าเป็นหน้าที่ที่สำคัญสำหรับผู้ว่าฯ เป็นสิ่งพื้นฐานที่ต้องทำ ไม่ควรจะถูกขายเป็นนโยบายหาเสียงด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันทางเท้ากลับมีปัญหาทั่วทั้งเมือง จนผมต้องนำมาเป็นนโยบายเร่งด่วน เพราะมีผู้ร้องเรียนเข้ามามาก สะท้อนว่า ผู้ว่าฯ กทม. ปัจจุบันไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เลย และปัญหาทางเท้าทั่วกรุงเทพฯ ที่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะผู้ว่าฯ ไม่ได้ทำงานสอดประสานกับ ส.ก. มากพอ
“วิธีแก้ไขที่เป็นรูปธรรมคือ การอาศัยหูตาของ ส.ก. และมีการทำงานที่สอดประสานกัน มาช่วยชี้ปัญหาเป็นจุดๆ พร้อมจัดสรรงบประมาณเข้าแก้ไข แน่นอนงบประมาณมีจำกัด แต่เราเริ่มแก้ไขได้จากทางเท้าบริเวณที่มีชุมชนและการสัญจรหนาแน่น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ทางเท้าของพี่น้องประชาชน” วิโรจน์พูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของตน
ถัดจากนั้นวิโรจน์และไกรศักดิ์ได้เดินทางต่อมายังวัดดอนเมือง ซึ่งตั้งอยู่หัวมุมจุดตัดของถนนสรงประภาและถนนเชิดวุฒากาศ ซึ่งเป็นทางม้าลายขนาดใหญ่ แต่การข้ามลำบากและมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ วิโรจน์เสนอให้มีการออกแบบทางม้าลายใหม่ เพราะเป็นถนนหกเลน คนข้ามต้องพะวงกับรถที่มาจากถนนเชิดวุฒากาศและถนนสรงประภา ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ทางม้าลายบริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมืองก็อันตรายไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นโรงเรียนประถม มีเด็กเล็กข้ามตลอด แต่ไม่มีสัญญาณไฟและปุ่มกด อีกทั้งยังมีรถที่ทำผิดกฎจราจรจอดทับทางม้าลายด้วย
วิโรจน์ยังคงย้ำถึงข้อเสนอของตนเรื่องความ ‘ใส่ใจ’ ในการบังคับใช้กฎจราจรอย่างเคร่งครัด แนะเร่งปรับโครงสร้างวิศวกรรมใหม่ ติดสัญญาณไฟทางข้ามแบบ Puffin Crossing นอกจากเรื่องทางเท้าและทางม้าลายบริเวณถนนสรงประภา ยังมีเรื่องปัญหาขนส่งมวลชนที่ไม่มีการให้บริการของรถโดยสารประจำทางตลอดทั้งสาย วิโรจน์ให้ความเห็นทิ้งท้ายว่า หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำหน้าที่ประสานพูดคุยทุกฝ่าย มองหาโอกาสและสัมปทานเส้นทาง สนับสนุนการเดินรถที่เหมาะสมต่อไป