วันนี้ (2 กรกฎาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยืนยัน ผู้ป่วยโควิดยังรักษาฟรีตามสิทธิเหมือนเดิม แม้โรคโควิดจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2665 เป็นต้นไป แต่จะมีการปรับแนวทางการจ่ายค่าบริการสาธารณสุขโรคโควิด
ทั้งนี้ บอร์ด สปสช. จะพิจารณาในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งประชาชนกลุ่มเสี่ยงโควิดยังขอรับชุดตรวจ ATK ที่ร้านขายยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ เมื่อตรวจแล้วติดเชื้อ กลุ่มที่มีอาการไม่มากหรือกลุ่มสีเขียวเข้ารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกแบบ ‘เจอ แจก จบ’ ตามสิทธิรักษา ส่วนกลุ่ม 608 หรือมีอาการรุนแรงจะต้องพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา หากเกิดอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินตามเกณฑ์สีเหลือง-แดง ยังใช้สิทธิ UCEP Plus เข้ารักษาโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
รัชดากล่าวต่ออีกว่า การระบาดของโรคโควิดในประเทศไทยขณะนี้ สถานการณ์ลดความรุนแรงลง ซึ่งระบบสาธารณสุขมีศักยภาพรองรับได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโรคเกิดขึ้น อาจมีคลัสเตอร์ขึ้นมาบ้างแล้วลดลงไป ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเหมาะสม มีระบบเฝ้าระวังและเตรียมการรักษาพยาบาล
สำหรับข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรื่องผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร ที่ให้การสวมหรือถอดหน้ากากเป็นไปตามความสมัครใจนั้น ยังมีสถานที่ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ ได้แก่ สถานที่นอกอาคารที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจํานวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา หรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม ส่วนสถานที่ภายในอาคารที่ต้องสวมหน้ากาก เช่น บนเครื่องบิน รถไฟฟ้า โรงเรียน และสถานศึกษาที่เป็นที่ปิด แต่หากมีการจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งก็สามารถผ่อนปรนการสวมหน้ากากได้
“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการดูแลสุขภาพของประชาชน ต้องให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน หากป่วยด้วยโรคโควิด ยังคงสามารถเข้ารักษาตามสิทธิสุขภาพของตนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เหมือนเดิม ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทยที่ได้รับการยกย่องติดอันดับโลกมาโดยตลอด สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการรักษา คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง” รัชดากล่าว