วันนี้ (12 กันยายน) ชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ยินดีกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นการส่วนตัว แม้ตนไม่โหวตให้ในรัฐสภา เพราะมาจากพรรคที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน และที่ผ่านมาได้รณรงค์และต่อสู้ทางการเมืองเพื่อไม่ให้พรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และได้ผู้แทนในพื้นที่ภาคใต้
ดังนั้นจึงไม่โหวตให้เพื่อไม่ให้เป็นการหักหลังประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเศรษฐา นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถูกตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น หากรู้ประวัติทำอะไรไม่ดี เช่น ระหว่างเรียนต่างประเทศ เคยทุจริตการสอบ ลักเล็กขโมยน้อย เชื่อว่าจะไม่มีละเว้น
ชวนอภิปรายเพิ่มเติมว่า หากพิจารณามาตรฐานของพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทยที่เสนอนายกรัฐมนตรี เศรษฐามีคุณสมบัติไม่ด้อยกว่าบุคคลทั้ง 5 คนที่เคยเสนอเป็นนายกฯ หากจะให้เสนอแนะคือ อย่าล้ำเส้น อย่าทุจริต อย่าหนีออกต่างประเทศ ทำอะไรที่มีปัญหาเมื่อพ้นตำแหน่ง แม้ตอนนี้จะวัดไม่ได้ว่านายกฯ มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ แต่สิ่งที่คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตรวจสอบเป็นประโยชน์กับท่าน ว่าท่านจะสามารถชี้แจงสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้
“ผมขอแนะนำคือ อย่าโกง ความซื่อสัตย์สุจริต ตามที่ท่านย้ำตอนท้ายว่า จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เมื่อนักธุรกิจทำการเมือง ทำให้ได้รับความไว้วางใจน้อยลงไป นักธุรกิจมาทำงานการเมืองไม่แปลก แต่อย่าเอาผลประโยชน์ธุรกิจส่วนตัว กระทบกับประโยชน์ส่วนรวม ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อได้นายกฯ คนนี้ เพราะเชื่อว่าจะเข้าใจคนที่ถูกเอาเปรียบ คนที่ถูกเลือกปฏิบัติ” ชวนกล่าว
ชวนกล่าวว่าเป็นโอกาสดีที่นายกฯ จะใช้วิจารณญาณทบทวนชดเชยความเสียหายให้พื้นที่ที่ถูกเลือกปฏิบัติ หลังจากที่ตนทำหนังสือและบอกกล่าวด้วยวาจาไปยัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ทำถนนสายหนึ่งให้ภาคใต้ และท่านได้หาเสียงในจังหวัดภูเก็ตว่าจะทำถนนคู่กับถนนหมายเลข 4 ดังนั้นการชดเชยควรจะเกิด
ชวนอภิปรายด้วยว่า ตนขอให้ดูเลข 7,520 คือตัวเลขของการสูญเสียชีวิตจากความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547-2566 ซึ่งไม่มีประเด็นการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ในคำแถลงนโยบาย แต่มีในภาคผนวก คือเป็นคำในยุทธศาสตร์ชาติที่ลอกมาลงไว้ ซึ่งความสูญเสีย 1 คนยิ่งใหญ่ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิด แม้จะย้ำเรื่องหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งไว้หลายจุดในนโยบายรัฐบาล แต่ไม่มีข้อมูลว่าจะแก้ปัญหาพื้นที่ด้วยวิธีใด
“ผมเชื่อว่านายกฯ ตั้งใจแก้ปัญหา แม้จะประเมินตัวเลขเรื่องลดตัวเลขผู้เสียชีวิตเท่าไร แต่ต้องทำ สิ่งที่แนะนำเมื่อเกิดวิกฤตในพื้นที่ คือน้อมนำพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา หากมุสลิมทำผิดต้องถูกตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ใช้อำนาจรัฐตัดสิน เหมือนในอดีตที่ทำนโยบายที่ผิดพลาด เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2544 ทั้งนี้ หลังโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ พบว่าตำรวจน้ำดีในปัตตานีเสียชีวิต 4 นาย ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องเน้นการพัฒนาพื้นที่และเข้าใจพื้นที่ ผมเชื่อว่าจะคลี่คลายปัญหาได้ ดังนั้นหากยึดมั่นในความสุจริต จะอยู่รอดปลอดภัยตลอด 4 ปี ไม่ติดคุก ไม่อยู่ในกลุ่มโคตรโกง โกงทั้งโคตร” ชวนกล่าว
จากนั้นเศรษฐาลุกขึ้นชี้แจงระบุว่า ชวนคงไม่รู้จักดีพอ เพราะเรียกชื่อผิดตอนต้น ตนคือ เศรษฐา ไม่ใช่ เชษฐา แม้เป็นนักธุรกิจมาก่อน ยืนยันว่ามาอยู่ตรงนี้รักประเทศชาติ ต้องการเห็นประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ตนมาด้วยหัวใจเปิดกว้าง ตั้งใจทำประโยชน์ให้ประเทศ ผมมีความรู้นิดเดียวกับปัญหาภาคใต้ ซึ่งการสูญเสียคน 1 คนไม่ควรเกิดขึ้น
“รัฐบาลที่มาจากประชาชน โดยพรรคร่วม 11 พรรค ให้ความสำคัญกับความสงบสุข ของภาคใต้ ไม่น้อยไปกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร ได้ลงไปแก้ปัญหาสึนามิจนได้รับการชื่นชม แม้รัฐบาลนี้จะไม่มี สส. ใต้ ต้องให้ความเป็นธรรม เสมอภาค เท่าเทียมกับคนไทยทุกคน” เศรษฐากล่าว
เศรษฐาระบุว่า อีกสองสัปดาห์ตนจะลงพื้นที่ภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อติดตามโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินนานาชาติภูเก็ต หรือบางคนเสนอให้ใช้สนามบินอันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล ครอบคลุมไปถึงจังหวัดพังงา กระบี่ และระนอง ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวนี้ไม่มี สส. ของพรรคเพื่อไทยเลยแม้แต่คนเดียว จึงยืนยันว่าการมาดำรงตำแหน่งนี้ มีเจตนาชัดเจนว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน ที่จะนำพารัฐบาลที่เป็นของคนไทยทุกคน
