วันนี้ (12 กันยายน) ที่ประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา ครั้งที่ 6 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 746 คน แบ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)
นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวชี้แจงถึงกรณียอดการส่งออกสินค้าของประเทศไทยในปี 2566 ต่ำกว่าปี 2565 ว่า การส่งออกในปี 2566 ตัวเลขในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 รวม 7 เดือน มีมูลค่า 5.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ยอดการส่งออกในปี 2565 มีมูลค่าอยู่ที่ 5.7 ล้านบาท
นภินทรกล่าวยอมรับว่า ยอดการส่งออกในปี 2566 มียอดน้อยกว่าปี 2565 ต่ำกว่า 3.75% สำหรับสาเหตุที่ยอดการส่งออกตกต่ำลงนั้น จากการนำข้อมูลทั้ง 2 ปีมาเทียบเคียงกัน จากการวิเคราะห์ว่าอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากข้อมูลการส่งออกในปี 2565 มีการค้าที่สูงกว่าสภาพความเป็นจริง โดยในปี 2564-2565 มีการแพร่ระบาดของโควิด ทุกประเทศอยู่ในภาวะชะงักในการเปิดประเทศ เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ความต้องการสูงขึ้นทำให้การส่งออกของประเทศนั้นสูงขึ้น
ส่วนสาเหตุที่ 2 การสต๊อกสินค้าอุปโภคบริโภคในต่างประเทศนั้น โดยมีการสต๊อกสินค้าอุปโภคบริโภคในโรงงานมากกว่า 3-4 เดือน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด บริษัทต่างๆ ก็นำวัตถุดิบนั้นมาใช้ และคงสต๊อกอยู่ไม่เกิน 1 เดือน เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงก็จะนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มเพื่อให้สต๊อกคงสภาพเดิม
สาเหตุที่ 3 ค่าระวางในการขนส่งทางเรือในปี 2565 มีการลดรายการอย่างมาก ทำให้การขนส่งไปยังบางประเทศลดลงถึง 45-60% ทำให้ต่างประเทศมีการนำสินค้าจากประเทศไทยเกินจริงในปี 2565
ดังนั้นหากจะมีการวิเคราะห์ตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยนั้น ควรที่จะนำสภาพความเป็นจริงของสินค้าในปัจจุบันมาวิเคราะห์ตั้งแต่ปี 2562 ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งตัวเลขจำนวน 7 เดือน (เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2562) มียอดการส่งออกอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2566 นั้นอยู่ที่ 5.5 ล้านล้านบาท สูงกว่าปี 2562 ถึง 2.34% พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า ไตรมาส 3 จะทำยอดการส่งออกได้กว่าปี 2562 ถึง 25% และในสิ้นปีจะสามารถทำตัวเลขส่งออกได้ 9.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2662 อยู่ที่ 7.6 ล้านล้าน
“หากเทียบกับปี 2565 เรายอมรับความจริงว่ายอดปี 2565 คือ 9.9 ล้านบาท เราไม่มีทางที่จะทำได้ เป็นสิ่งที่ยากมาก ถ้าจะทำให้ในปี 2565 จะต้องมีการส่งออกเดือนละ 8.8 หมื่นล้านบาท แต่ 5 ปีที่ผ่านมาสูงสุดอยู่ที่ 8 หมื่นล้านต่อเดือน แต่เราก็จะพยายามอย่างถึงที่สุด แต่เชื่อว่ายอดส่งออกของปี 2566 จะติดลบไม่เกิน 1-2% เมื่อเทียบกับปี 2565 แต่จะสูงกว่าปี 2562 ถึง 25%” นภินทรกล่าว